= TaLonGirls = by KeawZaaa & ^^Dear^^

วันศุกร์, ตุลาคม 21, 2548

21/10 : ทักทายจามรีที่เต๋อซี / หวงหลง

วันนี้ออกเดินทางไปหวงหลงกันนะจ๊ะ ...8 โมงตรงเป๊ง เราก็ออกเดินทางกัน




ถ่ายจากหน้าต่างห้องพัก



เดินทางนานหน่อยนะวันนี้ ใครคิดอยากเข้าห้องน้ำ ก็สมควรจะเข้าให้เรียบร้อยซะ เพราะระหว่างทางเนี่ย ห้องน้ำจะดูน่ากลัวทีเดียว ...ต่อให้สะอาดยังไง ก็ไม่สามารถทนกลิ่นได้ค่ะ

เนื่องจากอยู่ในวัยกำลังโต ประกอบกะเดินทางไกล ก็หลับตลอดทางตามเคยอ่ะนะคะ แล้วก็มาตื่นตรงทะเลสาปเต๋อซี ...ถ้าจำไม่ผิด เหมือนไกด์จะบอกว่าตรงนี้เป็นจุดต่ำสุดของเฉินตูล่ะ





จุดนี้มีชาวธิเบตเอาจามรี (เหมาหนิว แปลว่า วัวมีขน) มาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกัน แล้วเราก็แวะเข้าห้องน้ำแถวนี้ด้วย ...ชาวบ้านงกจัง ไม่ยอมจ่ายตังค์ก็ไม่ยอมให้เข้า พี่สุก็จัดการจ่ายให้ แล้วก็ให้เค้าไปทำความสะอาดส้วมให้เรียบร้อยก่อนที่จะให้พวกเราเข้าไป ...แต่เค้าก็แค่เอาน้ำเข้าไปฉีดล้างของเก่าออกไปอ่ะนะ แต่กลิ่นไม่ได้บรรเทาลงเล้ย.....จะอ้วก!!!!!



ขวามือเป็นห้องน้ำ ซ้ายมือมีขายของที่ระลึกกับพวกผลไม้



ส้วมตรงนี้เลวร้ายสุดเท่าที่เจอละล่ะ แบบว่าเป็นแบบรางเดียว แต่มีกำแพงก่อเอาไว้ครึ่งนึง พอปิดได้ แต่ก็ ..นะ ..ไม่เข้าได้ก็ดีแหละ

พอเข้าห้องน้ำเสร็จ ก็มาถ่ายรูปกะน้องจามรี ..น่าร๊ากกกก ..ชอบจังแฮะ แบบว่าเหมือนตุ๊กตาเลย ขนนิ๊ม นิ่ม ... เรา 3 คนขึ้นไปถ่ายรูปกันมาด้วยล่ะ ตอนแรกเค้าบอกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่เรา 3 คนไปถ่ายด้วย จ่ายไป 10 หยวน (ไม่ได้ต่ออ่ะ ขี้เกียจ..กะอีกอย่าง ลุงฉลองจ่ายให้ ^^) ชั้นต่อแล้ว ทีแรกมันจะเอาคนละ 5 หยวน แล้วเงินชั้นก็เอาไปจ่ายคืนลุงฉลองแล้วด้วย เหมือนตอนหลังจะได้คนละ 2 หยวนมั้ง
















ทั้งอวบ ทั้งขาว น่าอร่อย :)~~






เด็กน้อยวิ่งเล่นอยู่หลังร้านเกาลัด ถึงตัวไม่ขาวแต่แก้มแด๊งแดง




อันนี้เกาลัดร้านประจำ ขาไปก็ซื้อเจ้านี้ ขากลับก็ยังตามมาอุตหนุน
มีแอ๊ปเปิ้ลขายด้วย สดอร่อยราคาถูก
อาหารไม่ถูกปากก็ได้แอ๊ปเปิ้ลนี่แหละประทังชีพ




ถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยก็มาเดินดูของที่ระลึกกันนะคะ เมื่อคืนไปปิ๊งสร้อยเส้นนึงหน้าโรงแรม ก็เป็นหินของธิเบตแหละ แต่ว่าแบบอื่นๆมันดูเบาๆ เงาๆ เหมือนพลาสติกไง ไอ้อันที่เห็นเนี่ย มันหนัก แล้วก็ดูด้านนิดๆ ดูแล้วขลังกว่า แต่คนขายไม่ลดราคา เลยไม่ซื้อ วันนี้ลองโฉบๆดูแถวนี้ก็ยังไม่มีแบบที่หา เลยไม่ได้ซื้ออะไร แต่สุดท้ายก็มีเกาลัดติดไม่ติดมือขึ้นมากินบนรถหน่อยนะคะ





แวะให้สว.เข้าห้องน้ำเป็นระยะๆ
พวกสส.อย่างเราก็ลงมายืดเส้นยืดสายถ่ายรูปกัน







รู้สึกจะเป็นประตูข้างห้องน้ำ
กลิ่นหอมฉกฉื่น~~

วิวสองข้างทาง
ดีที่นั่งอยู่หลังสุด เปิดหน้าต่างได้ เลยได้ถ่ายรูปกันหนำใจ
แต่ต้องรีบถ่ายกันหน่อยเพราะหนาวมาก






















สงสัยอยู่สูงมาก ความกดอากาศต่ำ ขนมถุงๆที่ทางบ.ทัวร์เตรียมไว้เป็นลังๆ (วางตรงไหนไม่วางดันมาวางไว้กะเรา) ก็เริ่มเป่งจนระเบิด ปุ้งๆๆ เป็นระยะๆ เพื่อความสะอาดเรียบร้อย พวกเด็กๆหลังรถอย่างเราเลยต้องจัดการให้สิ้นซาก



แล้วเราก็เดินทางต่อไปที่ทะเลสาปหวงหลงกันเลย ...ตอนนี้หิมะเริ่มตกลงมาแล้วว 2 ข้างทางสวยมากๆๆๆๆ แล้วหิมะก็หนาตัวขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดนึง ที่คาดว่าหิมะลงหนาที่สุด ตรงนี้มีป้ายหินเขียนเอาไว้ว่าสูงจากระดับน้ำทะเล 4000 เมตร แล้วก็มีธิเบตอีกกลุ่มพาจามรีมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเหมือนกัน .. แต่จามรีที่นี่น่าสงสาร แบบว่าขนร่วงจะหมดตัวอยู่แล้ว ขนไม่ขาว แล้วก็ดูไม่แข็งแรงเหมือนตัวข้างล่างเลยอ่ะ

คราวนี้ไอ้เราก็ลั้ลลาเกินเหตุ พอเค้าให้ลงก็ไปถ่ายรูปดะ ทั้งจามรี ทั้งป้าย แล้วธิเบตก็จะมาเก็บเงิน..พี่สุบอกว่าไม่ต้องไปสนใจ เราก็เลยเดินหนี ทีนี้เค้าก็เลยเหมือนจะมาคว้าแขนเอาไว้อ่ะ น่ากลัวมากๆ เราก็เลยรีบเดินไปที่รถ แล้วพี่ไกด์ก็รีบต้อนขึ้นรถไป


























แล้วก็เกิดเหตุการณ์ตื่นเต้นอยู่ระยะใหญ่ๆ เรานั่งข้างหลังเลยไม่เห็น แต่ได้ยินเสียงพี่สุทะเลาะกะเค้าดังเหมือนกัน น้าตุ้มเล่าให้ฟังว่า ธิเบตขึ้นมาบนรถ ไม่ยอมให้เราไปจนกว่าเราจะจ่ายเงิน แล้วเหมือนเค้าจะมีมีดด้วย ทะเลาะกันอยู่พักใหญ่ๆ พี่สุเถียงเค้าว่า แค่ลงไปถ่ายหิมะ ไม่ได้ถ่ายป้าย ไม่ได้ถ่ายจามรี (เอ่อ ..แบบว่าเราก็ถ่ายอ่ะนะ แต่เงียบไว้ดีกว่า) แต่ยังไงเค้าก็ไม่ยอม แล้วสุดท้ายมีตำราวจมาช่วยไกล่เกลี่ย ธิเบตถึงยอมปล่อยเราไป แล้วประมาณว่าอาเหวินก็กลัวมีเรื่องก้เลยจ่ายตังค์ไปให้ด้วยแหละ .... พี่สุโมโหใหญ่เลย

"จ่ายไปเท่าไหร่"
"เอาน่า..นิดหน่อย"
"เท่าไหร่"
"เถอะน่า ช่างมันเถอะ"
"เท่าไหร่!!!!!!"(เสียงดังมาก)
"50 หยวน" (อาเหวินท่าทางจะกลัว...555)
"จ่ายมันไปทำไม ที่ดินตรงนี้เป็นของมันหรอไง มันของรัฐบาลต่างหาก มีสิทธิ์อะไรมาเก็บ....ฯลฯ"


แบบว่าเราอยู่หลังสุด เรายังได้ยินเลยอ่ะ ถือเป็นเหตุการณ์ระทึกที่เราเอามาเมาท์กันนอกวงได้ตลอดทริป ..อิอิ ....แต่ตอนหลังอาเหวินมาบอก ประมาณว่าตรงนี้เค้าก็เป็นชนกลุ่มน้อย ไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาล แล้วก็อะไรอีกก้ไม่รู้ แต่ก็ประมาณว่า นิดๆหน่อยๆก็จ่ายเค้าไปเหอะ ถือว่าเป็นรายได้ให้เค้าละกัน
อาเหวินบอกว่า ปกติแล้วเมืองจีนไม่อนุญาตให้คนพกมีด/ดาบ แต่พวกคนกลุ่มน้อยนี่พวกผู้ชายเค้าจะพกมีดกันเป็นวัฒนธรรมของเค้าอยู่แล้ว เลยได้รับอนุญาตให้พกได้เป็นพิเศษ แล้วแบบพวกนี้เค้าอยู่แถบนี้กันมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว ทางการจีนเค้าเลยไม่ค่อยกล้าทำอะไรมาก เพราะฉะนั้นอย่าไปมีเรื่องดีกว่า
................................................

หลังจากผ่านเหตุการณ์ระทึกมาเรียบร้อย ก็ได้เวลาน้ำย่อยในกระเพาะเริ่มจะทำงานพอดี.... เราก็มาแวะกินข้าวกันก่อนจะเดินขึ้นไปที่หวงหลงก่อน ร้านอาหารที่เรากินก็ในโรงแรมแถวนั้นแหละ ประมาณว่ากินเสร็จแล้วก็เดินไปหวงหลงเลย

พอไปถึงร้านอาหารหิมะกำลังตกพอดี ..บรรยากาศดี๊ดี (แต่แอบหนาวนิดนึง)

กินข้าวเสร็จ หิมะก็หยุดตก ...โชคดีอีกแล้ว ..เพราะถ้าหิมะตก อาม่าทั้งหลายในทริปคงแย่อ่ะ หนาวด้วย อากาศบางด้วย เดี๋ยวจะไม่สบายเอาซะก่อน คราวรี้หิมะไม่ตก อาม่าก็สบายใจขึ้นแหละเนอะ

พอกินข้าวเสร็จ เราก็เดินทางเข้าไปในนั้นทันที และเนื่องจากกรุ๊ปเรามีหลายช่วงอายุ ความอึดต่างกัน พี่ไกด์เลยให้แยกกันเดิน แล้วนัดเวลามาเจอกันที่รถเลย อาม่าๆก็จะเดินไปแค่ไม่กี่ชั้น เด็กๆก็จะเดินสูงหน่อย หรือว่าถ้าใครไม่ไหวก็สามารถขึ้นเกี่ยวขึ้นไปได้ ค่าเกี้ยวก็ประมาณ 220 หยวนต่อคน เค้าก็จะแบกพาขึ้นไปถึงชั้นบนสุดเลย (ประมาณ 4 กิโลจากประตู)
















~~~ไปเที่ยวในหวงหลงกันเล้ยยยย!!!!~~~

พอเข้าไปในเขตทะเลสาปแล้ว ก็มีเคาน์เตอร์ที่ขาย postcard แล้วก็แสตมป์บัตรเข้าเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเรามาถึงแล้ว ...เราก็เสียเวลาอยู่ตรงนั้นแวบนึง ได้ postcard มาคนละเล่ม ..และแล้ว ก็เริ่มเดินทางเที่ยวกันเล้ยยยย!!!!!

หวงหลงแปลว่ามังกรเหลือง ถ้ามองไปรอบๆ จะเห็นเป็นหินสีเหลืองเรียงรายอยู่คล้ายรูปมังกร(เดี๋ยวจะหาประวัติมาแปะ ..ติดไว้ก่อน)
















ไอ้เราก็เป็นนักท่องเที่ยวที่ดี๊ดีอ่ะนะ ไม่ได้สังเกตอะไรเลย ว่าตรงไหนเรียกว่าอะไร แบบว่าพอเดินเข้าไปเห็นทุกอย่างดูอลังการแล้วก็ตื่นเต้นๆๆ ถ่ายรูปๆๆๆ ไม่ได้ดูป้ายอะไร แต่โชคดีที่รินจังถ่ายเก็บไว้หมดเลยสามารถบรรยายได้ว่าเราผ่านอะไรมั่งอ่ะนะ

จุดแรกที่เราเริ่มต้นเดินเรียกว่า Fuyuan bridge แค่จุดนี้คนก็ถ่ายรูปกันเต็มแล้ว (คนไทยเยอะมากๆ) โชคดีว่าที่นี่เค้าทางเดินออกมาดีมากๆๆๆ แบบว่าปูเป็นไม้ตลอดทาง เดินง่าย ชื่นชมกะความสวยงามของธรรมชาติได้เต็มที่ ...เราว่าเราโชคดีที่จังหวะเราไปหิมะตกลงมาหน่อยๆแล้ว ยอดเขาที่เราเห็นเลยเป็นมากกว่า ใบไม้ 3 สี ...ยอดเขาจะมีหิมะปกคลุม แถมมีหมอกบางๆล้อมอยู่ ส่วนตีนเขาไล่ขึ้นไป จะเป็นไบไม้ 3 สี ไล่กันไป สวยมากๆๆๆ



























มองไล่จากตีนเขามาถึงจุดที่เรายืนอยู่ก็จะมีทะเลสาป + น้ำตกประปราย น้ำที่ที่ออกเป็นสีเขียวมรกต ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน ทะเลสาปส่วนมากก็จะมีลักษณะเป็นขั้นบันไดลงมา มองไปแล้วเห็นน้ำใส อยู่ในทะเลสาปไล่ลงมาเป็นชั้นๆ ..เราว่าเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ดีนะ (^^)





















พอพ้นจากจุดเริ่มต้นไป ก็เข้าเขตของ Color pool ...ตรงนี้ก็เป็นบ่อเล็กๆแล้วเหมือนจะมีน้ำตกเล็กๆเป็นชั้นๆด้วย

ถัดไปเป็น Pool of TIne Waves ตรงนี้เหมือนน้ำจะมีตะไคร่เยอะว่า pool ที่ผ่านๆมา นอกนั้นก็ไม่มีอะไรต่างกัน










รูปถ่ายจากด้านบน(หัวเดียร์)


















คราวนี้เราก็มาเจอน้ำตกกันมั่งนะ ..น้กตกนี้ชื่อว่า Lotus Basin Waterfall อันนี้ดูอลังการนะ ..ปกติน้ำตกมันจะผ่านหินแล้วดูดำๆมืดๆใช่ป่ะ แต่อันนี้เป็นสายน้ำที่ผ่านหินสีเหลือง แล้วน้ำตกสูงรึเปล่านี่ไม่รู้ แต่ว่าไหลออกมาไกลมาก ...เหมือนน้ำตกมันไม่ชัน แต่มันยาว เลยเห็นน้ำไหลผ่านหินสีเหลืองเป็นขั้นๆไปตลอดทางที่เราเดิน . แล้วฉากหลังก็เป็นภูเขาหิมะ สวยสุดๆ ..ดูรูปเอาละกัน บรรยายไม่ถูก

หันมาดูนาฬิกา ก็เห็นว่าจริงๆสมควรแก่เวลาที่เราต้องเดินกลับแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวกลับไปช้าให้ผู้ใหญ่รอนานจะไม่ดี (ลืมบอกไปว่าตลอดทางที่ขึ้นมาเนี่ย มีทางให้วกเดินกลับลงเขาได้เป็นระยะๆ มีศาลาให้พักด้วย ก็ถ้าใครไม่ไหวก็นั่งพักที่ศาลา แล้วก็หาทางเดินลงกลับได้เลย) แต่มองไปตามทางที่เราเดินมาเห็นบางคนยังเดินขึ้นมาอยู่ เราก็เลยคิดว่าเดินต่อไปอีกหน่อยก็ดีแฮะ แล้วเดี๋ยวค่อยๆรีบเดินกลับ คงไปถึงพอๆกะกลุ่มหลังแหละ

เดินไปอีกนิดก็เจอสระบอนไซ Bonsai Pool....ตรงนี้เป็นจุดสุดท้ายที่เราเดินถึงละล่ะ(ถ้าเดินไปอีกหน่อยจะเป็น Mirror Pool) จุดนี้ห่างจากจุดเริ่มต้นของเรา ~ 1.6 กิโล จะว่าไปสระนี้ก็สวยสุดนะ สระกว้าง น้ำนิ่ง แล้วก็ใสด้วย พวกเราก็อยู่ชื่นชมธรรมชาติกันแวบนึง แล้วก็สมควรแก่เวลาวกกลับนะคะ (เสียดายจัง ถ้ามีเวลาเยอะกว่านี้อยากไปต่อนะเนี่ย เราว่าขึ้นเกี่ยวก็ไม่ work อ่ะ เพราะว่าตามทางมันก็สวยเยอะเหมือนกันนี่น่า เดินดูไปเรื่อยๆสนุกกว่าด้วย)

อยากเดินขึ้นไปถึงข้างบนจังแต่เวลาน้อยมากๆ ให้เดินแค่ 2 ชม.กับระยะทางไปกลับ 8 กิโล ใครจะไปเดินได้ อุตส่าห์ก้มหน้าก้มตารีบเดินเผื่อจะได้ขึ้นไปสูงๆ แต่ก็มาได้แค่นี้ เสียดายจัง ถ้ารู้ว่าให้เวลาแค่นี้กะรีบกินข้าวแล้วขึ้นมาก่อนดีกว่า

ก่อนวกกลับหันหลังไปถ่ายรูปซะหน่อย ...ธรรมชาตินี่อลังการจริงจริ๊งงงงง

แล้วเราก็เดินข้ามสะพานข้ามน้ำตกสุดอลังการเมื่อกี้ แล้วก็มุ่งสู่เส้นทางลงเขากันละนะ


























เส้นทางนี้ ต่างจากทางขึ้นอย่างสิ้นเชิง เพราะว่าทางขึ้นจะมีสระ มีน้ำตกอยู่ 2 ข้างทาง มองไปแล้วจะโล่งๆ เห็นภูเขาอยู่ไกลๆ แต่ว่าทางกลับเนี่ย 2 ข้างทางจะเป็นต้นไม้สูงตลอดทางเลย มีหิมะประปรายบนต้นไม้แล้วก็บนพื้น บางจุดก็มีตะไคร่น้ำคลุม สวยดีนะ ระหว่างเดินๆ ก็จะมีเกี้ยวที่เค้าแบกคนกลับมาเป็นระยะๆ

มาโผล่เอาตรงเกือบๆจะถึงจุดที่เราซื้อ Postcard กัน เห็นห้องน้ำตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ เลยขอแวะเข้าซะหน่อย แบบว่ากลัวว่า พอออกไปแล้วทุกคนจะรออยู่แล้วแวบไปเข้าห้องน้ำที่โรงแรมไมได้ด้วยแหละ เลยแข็งใจเข้ามันซะที่นี่เลย ไม่สกปรกเท่าไหร่แฮะ ดูโอเคพอควร ...แต่กลิ่นนี่ยังไม่ไหวเหมือนเดิมค่ะ

กลับไปที่รถ แทบจะยังไม่มีใครกลับมาเลย (รีบแทบตาย) แต่ซักพักก็มากันหมดละล่ะ

หมดละวันนี้ .... ขึ้นรถค่ะ กลับโรงแรม พรุ่งนี้เตรียมตัวเดินทางไปจิ่วไจ้โกวกันเล้ย!!!!!!