= TaLonGirls = by KeawZaaa & ^^Dear^^

วันศุกร์, เมษายน 30, 2547

ยุโรปวันที่ 2 : ปราสาทปราก - สะพานชาร์ลส - คาร์โลวีวารี

30/4/04

~~~ ข้าวเช้าไม่อร่อยเลย...อาหารยุโรปไม่ถูกปากสุดๆ Y_Y ที่นี่พระอาทิตย์ตกเร็ว ขึ้นเร็ว ตื่นมาตอน 6 โมง ก่อน 8 โมงก็พร้อมออกเดินทางละ แต่ละโรงแรมจะนอนแค่คืนเดียวเอง เพราะเดินทางตลอด



~~~แวะถ่ายรูปหน้าโรงแรมหน่อย ..ดอกไม้สวยยยย~~~

แล้วก็เดินทางไปปราสาทปราก ...เมืองปรากคล้ายๆคลุมลอฟ แต่มีกลิ่นอายของความเป็นเมืองหลวงมากกว่า ปราสาทเลยออกจะดูทันสมัยกว่าของคลุมลอฟหน่อย เหมือนจะเดินผ่านจุดที่สำคัญที่มีประวัติหลายจุด แต่อยู่ไกลจากไกด์ เลยไม่ได้ยิน ..เศร้าเลย Y_Y




~~~ทางเข้าปราสาทปราก ...คงมีประวัติอะไรซักอย่าง..เคยเห็นในทีวี มุมนี้เลย~~~

(ในไดอารี่เขียนไม่ละเอียดอ่ะ ..จำไม่ค่อยได้ด้วย..ทำไงดี) มาดูรูปแล้วมีรูปที่ถ่ายหน้าปราสาท กับรูปบ้านเมืองที่ถ่ายออกมาจากปราสาท แต่จำไม่ยักกะได้ว่าเดินเข้าไปในปราสาทในรูปด้วย ..เขียนไปจะผิดมะเนี่ย ??



~~~รูปปราสาท(ที่คาดว่าจะเป็น)ปราก~~~




~~~บ้านเมืองปราก ....บอกแล้วว่าเหมือนคลุมลอฟ~~~

จริงๆเดินในเมือง จะไม่รูสึกว่าปรากเหมือนกับคลุมลอฟนะ เพราะมันรถเยอะกว่า คนเยอะกว่า แต่พอมองจากปราสาทปรากแล้วเนี่ย ..เหมือนเดียะ ..ว่ามะ ??

เสร็จแล้วเราก็เดินเท้าต่อไปที่สะพานชารร์ลส (มีประวัติอะไรซักอย่าง จำไม่ได้) ที่นี่ข้างบนจะมีของขายอยู่เต็ม เค้าเปรียบเทียบว่าเหมือนสะพานพุทธบ้านเรา ..แต่ขอ confirm ว่าไม่เหมือนเลย บรรยากาศสงบกว่าเยอะ ส่วนมากของที่ขายจะเป็นรูปวาด แล้วก็ของ art art ...ใครชอบแบบนี้ก็น่ามาเดินนะ




~~~คณะทัวร์ที่ไปด้วยกันใต้สะพาน~~~


~~~บนสะพาน (คุณแม่จิ๊กแว่นดำคุณลูกไปใส่) ..อิอิ ..~~~

ลงจากสะพาน เราก็เดินทะลุเมืองไปวิหาร St. Vitus ...ข้างทางจะมีร้านขายของที่ระลึกเป็นระยะๆ ..มาเที่ยวยุโรปไม่ดีอย่างตรงที่ต้องแลกเงินหลายสกุล มาถึงแต่ละเมืองก็ควรใช้เงินสกุลนั้นให้หมดเลย ..แลกคืนยาก ...แต่ของที่ระลึกมันก็ไม่มีอะไรให้ซื้อมากอ่ะ ..สรุปว่าก็ไม่ได้ซื้ออะไรซักอย่างแหละ

~~~ทางเดินผ่านเมืองไป St. Vitus~~~

~~~ชอบเมืองแบบนี้อ่ะ ..ตึกขึ้นสองข้างทาง แต่ดูไม่หนาแน่น~~~
คลาสสิกดีนะ ...ว่ามะ ??

มาถึงวิหารแล้ว ...ที่นี่จะมีหอนาฬิกาที่ตีทุกๆกี่ชั่วโมงไม่รู้ ไม่แน่ใจว่ามีการแสดงสวนสนามอะไรรึเปล่า ..แต่เรามาไม่ทัน (ไกด์ไม่ยอมบอกอ่ะ ไม่งั้นจะรีบเดิน...เซ็งไกด์ทัวร์นี้จริงๆ)


~~~หอนาฬิกาที่วิหาร St. Vitus~~~

หลังจากนั้นก็เดินทางไปที่เมืองคาร์โลวีร์วารี ...อันนี้นี้เมืองในฝันสุดๆ ...เป็นเมืองเล็กๆในเขา เหมือนจะมีคลองเล็กๆผ่านอยู่กลางเมือง ร้านอาหารส่วนมากก็จะเป็นแบบ outdoor ออกมานั่งกินอะไรข้างนอก อากาศดี ชอบที่สุดที่มาในทริปนี้แล้วเนี่ย !!!! (เสียดายว่าไม่ได้ถ่ายรูปทางเดินที่มีร้านเรียงกันตามทางมา ...มือใหม่อ่ะนะ ..ทริปหน้าไม่พลาดละ)

~~~คลองเล็กๆที่ผ่านกลางเมือง~~~

~~~ต้นไม้เรียงรายสองข้างทาง (สวยมากๆ)~~~

ลืมบอกไปว่า ที่เมืองนี้จะมีน้ำพุร้อนธรรมชาติ กับน้ำแร่ที่ขึ้นชื่อว่าดีกับสุขภาพ (เหมือนไกด์จะเล่าว่ากษัตริย์องค์ไหนชอบมาที่นี่เพื่อพักผ่อน แล้วดื่มน้ำแร่เพื่อรักษาสุขภาพไม่รู้ ..จำไมได้ ไม่ได้จดมาด้วย)

การกินน้ำแร่ที่นี่เค้าจะมีวิธีกินของเค้านะ ..เค้ามีถ้วยสำหรับกินน้ำแร่เฉพาะเลย คล้ายๆกับกาน้ำชาที่จะมีจงอยยื่นออกมาให้เรากินจากทางนั้น ..ของที่ระลึกของที่นี่ส่วนมากก็จะเป็นถ้วย (แต่เราไม่ได้ซื้อมา เพราะมันกินลำบาก ^^') ..รสชาติน้ำแร่ปะแล่มๆ ...กินไปนิดนึงแล้วพอเลย.....


~~~ก่อนจากเมืองนี้ไปขอส่งท้ายอีกรูปนึง ~~~
(อันนี้ไม่ได้ถ่ายที่ญี่ปุ่นนะ อย่าเข้าใจผิด)

กินข้าวกลางวันเสร็จก็เดินทางตลอดบ่าย ..เข้าเยอรมันแล้วววว พอฟ้าเริ่มมืด เราก็เดินทางถึงเมืองมิวนิค แล้วก็ไปกินอาหารเย็นเลย ..เค้าเสริฟขาหมูให้คนละขา ..ขาใหญ่มากๆๆๆๆ ..วันนี้สภาพจิตใจไม่ค่อยดี เลยกินไปได้ไม่ถึงครึ่ง Y_Y ....ร้านอาหารที่มาวันนี้บรรยากาศเป็นแบบโรงเบียร์ คนที่นี่กินเบียร์กันเก่งมาก สมกับเป็นเยอรมันจริงๆ


~~~ขาหมูขาเบ้อเร่อ ...ต่อคน!!!!~~~

(((นอกเรื่อง ...รีบเดินออกมาข้างนอกหาซื้อการ์ดโฟน ร้านปิดหมดแล้ว หาซื้อไม่ได้เลย ..อยากโทรกลับเมืองไทย ..สติไม่อยู่กะเนื้อกะตัวเลยจริงๆ)))

วันนี้หลังโรงแรมมีสวนสนุกกลางคืนเปิด พอเอาของเข้าที่พักเรียบร้อย พวกรุ่นเราก็เลยชวนกันออกไปเดินเที่ยว ...ก็ดี จะได้สบายใจขึ้น (ลืมบอกไปว่าซื้อการ์ดโฟนได้ที่โรงแรม แต่ตอนนั้นเมืองไทยดึกมาก ต้องรอโทรพรุ่งนี้)

สวนสนุกคนเยอะมาก แต่ค่าเล่นแพง เลยไม่ได้เล่นซักกะอย่าง ไปเล่นเกมเล็กๆน้อยๆ ได้ของที่ระลึกอะไรมาก็ไม่รู้


~~~สวนสนุกเยอรมัน~~~

ที่นี่ปิดตอนเที่ยงคืน พอซักห้าทุ่มครึ่งร้านก็เริ่มปิด คนก็ทยอยกลับ พวกเรายังไม่ง่วงเลยยังไม่อยากกลับโรงแรม ว่าจะไปหาที่เดินเที่ยวต่อ เลยลงไป subway ข้างล่าง..บรรยากาศน่ากลัวมากๆ แปลกที่บ้านเมืองข้างบนเค้าสะอาดเรียบร้อยสุดๆ แต่พอลงมาเท่านั้นแหละ บรรยากาศมืดๆอับๆ สกปรก ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่พิกัดเดียวกัน (ศัพท์เว่อร์ไปมะ..อิอิ ) ระหว่างที่เรากำลังดูเส้นทางกันอยู่ว่าจะไปไหนดีก็เจอเด็กเยอรมันกลุ่มนึง ยืนคุยกันซักพัก (สื่อสารกันลำบากเล็กน้อย ...เพิ่งรู้ว่าคนเยอรมันไม่พูดอังกฤษ) เค้าจะไปกินเบียร์กันต่อ เลยชวนพวกเราไปด้วย ..แต่ยังไม่ซ่าส์พอ ..เลยขอตัวกลับโรงแรมดีกว่า

========= นอนๆๆๆ ..นอนไม่หลับแฮะ ==========

<<<<< อ่านตอนที่แล้ว อ่านตอนต่อไป>>>>>