29/12 : หลวงพระบาง - เวียงจันทน์

<<<<<< อ่านตอนที่แล้ว

วันนี้ตั้งใจจะไปตักบาตร เค้าบอกว่าพระมาตอน 6.30 เลยตื่นมาตอน 6 โมงกว่าๆ ล้างหน้าแปรงฟันแล้วออกไปเลย ..

ออกมาตั้งกะตอนมื๊ด มืด ไม่เห็นพระซักกะรูปเลย

รอ ร๊อ รอ .....

รอจนสว่างเลยอ่ะ

เด็กๆมาขายของกัน

คนอื่นเอาข้าวเหนียวมาใส่ แต่เรากะต้องตาซื้อส้มมาคนละโล กะข้าวเหนียวอีก 1 กะติ๊บ ยืนรอนานมาก เมื่อยด้วย เลยนั่งรอกันตรงฟุตบาท ... รอตั้งกะฟ้ามืดยันฟ้าสว่าง ถึงได้เห็นว่านักท่องเที่ยวทั้งหลายเนี่ย มากันอย่างเต็มยศ แบบว่าแต่งหน้าทำผมพริ้ง พร้อมออกเที่ยว มีเสื่อมาปูเรียบร้อย แถมของจะใส่บาตรก็มีถาดรองมาอย่างดี ...ไอ้เรา 2 คนมากันชุดนอน แป้งไม่ได้ทา ผมไม่ได้หวี หน้าง่วงๆ หิ้วส้มมาคนละถุง แล้วมานั่งรอริมฟุตบาท..ตอนแรกก็เฉยๆอยู่ ซักพักเห็นฝรั่งมาถ่ายรูป ...เอ...แปลกๆ ...เลยหันไปคุยกะต้องตาว่า ท่าทางเราจะเหมือนคนท้องถิ่นเกินไปป่ะวะ ??

กว่าจะเห็นเงาพระรูปแรกก็ตั้ง 7 โมงกว่าอ่ะ (ตื่นมา 7 โมงก็ทัน) แล้วแบบว่า speed มากๆๆ ขนาดหยิบใส่ๆยังไม่ทันไปหลายรูป พอเราใส่เสร็จก็เดินออกมาอยู่รอบนอก ไปเห็นคนลาวแท้เค้าใส่นี่ แทบจะโยนข้าวเหนียวลงบาตรพระโดยไม่ต้องมองหน้าเลยอ่ะ ...ไม่งั้นคงไม่ทันจริงๆแหละ

ขบวนพระสงฆ์ ประมาณ 300 รูป

Speed อย่างแรง ...กดชัตเตอร์ไม่ทัน

ตอนแรกนึกว่าเสร็จแล้วจะมานอนต่อ สายๆค่อยออกมาเดินเที่ยว...แต่สายขนาดนั้นแล้วก็ตื่นเลยก็ละกัน ..กลับไปอาบน้ำ กินมาม่า แล้วก็เดินเที่ยวเมืองเลย (ยังไม่ได้เดินในเมืองจริงๆไง เพราะวันแรกมาถึงก็เย็นแล้ว ขึ้นพระธาตุที่เดียว แล้วเมื่อวานก็ไปเที่ยวที่อื่นทั้งวัน) ตอนแรกนึกว่าจะหาทัวร์เที่ยวครึ่งวัน แต่จากการประเมินผลเมื่อวาน ..กะพอดีมาเจอพี่ๆบนรถตู้เค้าไปเที่ยวเชียงแมน เชียงขอมมา ก็ถามเค้าว่าเป็นไง ...เค้าก็ไม่ได้ตอบไรมาก แต่จากสีหน้าเนี่ย ..ฟันธงได้เลยว่า เดินเที่ยวในเมืองดีกว่าชัวร์

เด็กๆเค้ามารอ เผื่อว่าจะได้อะไรกลับไปกินมั่ง (รึ่เปล่าก็ไม่รู้ แต่เค้าไม่ได้ใส่บาตรอ่ะ)

อาบน้ำเสร็จ ก้ออกเดินเที่ยวเลย..เดินมั่งไว้ก่อน กลับเรือนพักได้เป็นพอ เดินๆไปก็เจอวัด ก็เข้าไปไหว้พระ ถ่ายรูปเล็กน้อย (ที่นึงไม่เกิน 5 นาที) เดินๆอยู่ดีๆ เจอเด็กน้อนข้างทาง ตะโกนมาว่า "ถ่ายรูปให้แน๊ะ" ..เลยสนองซะหน่อย ...เด็กน้อยน่าเอ็นดูสุดๆ แถมท่าทางโพสท่าจนชำนาญ ถ่ายรูปเสร็จก็เอาให้เค้าดู ท่าทางเค้าก็อยากได้ ไอ้เราก็อยากให้ แต่ก็ไม่รู้จะให้ยังไงอ่ะนะน้องนะ

วัดอะไรซักอย่าง ..อ่านชื่อไม่ออก

อุโบสถวัดลาว

ข้างในมีจิตรกรรมฝาผนังด้วยนะ

ลองเดินมาดูวัดข้างๆซะหน่อย

เค้ามีลานที่มีพระพุทธรูปหลายๆปางด้วยล่ะ
(แต่เหมือนว่าชาวบ้านจะสร้างถวาย)

ถ่ายรูปให้แน๊ะ~~~

ซักพักเดินไปที่พิพิธภัณฑ์ ...ตรงกลางเนี่ยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดัดแปลงมาจากปราสาทเก่า ซ้ายมือเป็นโรงละคร ขวามือเป็นอุโบสถ จากการพูดคุยกะชาวลาวแถวนั้นได้ความว่า
"แต่ก่อนเคยเก็บพระแก้วมรกต แต่ตอนนี้คนไทยเอาไปแล้ว"
....ปิ้ว..... ถึงหนูจะเป็นคนไทย แต่หนูไม่รู้เรื่องนี้เด้อพี่เด้อ ....

ข้างหน้ามีขายดอกไม้ กะนกให้เราไปปล่อยเหมือนบ้านเราเลย

โรงละครพระลักษณ์ พระราม

หน้าโรงละครมีรูปปั้นเจ้าศรีสว่างวงศ์อยู่ล่ะ ...ที่นี่เค้าท่าทางจะบูชาองค์นี้กันมากๆๆ

รูปปั้นท้าวศรีสว่างวงศ์

กรวยดอกไม้ที่ชาวบ้านเอามาบูชา

รายการแสดง + นักแสดงมีใครมั่งมาดูได้ที่นี่

อุโบสถตอนนี้กำลังบูรณะ ข้างในเลยไม่มีอะไรมาก แต่มีกลุ่มคนทำงานมานั่งวาดลวดลายที่จะตกแต่งใหม่กันอยู่


อุโบสถจากข้างนอก

ข้างในกำลังเตรียมงานบูรณะอย่างขมักเขม้น

เสร็จแล้วเราก็เดินไปที่ตัวพิพิธภัณฑ์ กำลังลังเลอยู่ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าดี (เพราะเสียตังค์) ก็ได้ยินเสียงคนไทยถามมาว่าไม่เข้าไปกันหรอ เราก็เลยบอกว่า คืออยากรู้เรื่องราวของของที่เค้าแสดงอ่ะ ถ้าเข้าไปแล้วไม่มีอะไรเขียนบอกก็ไม่อยอยาก ...เค้าก็บอกว่าไม่มีหรอก จริงๆมีหนังสือ แต่มันเป็นภาษาลาว แล้วไม่มีใครมาบรรยายให้ฟังด้วย ...สรุปก็เลยไม่ได้เข้าเลย

แต่ที่แน่ๆ เพิ่งรูว่าอย่างว่า ชื่อ "หลวงพระบาง" เนี่ย มาจากชื่อพระล่ะ มาดูประวัติพระบางกันเร้ว .... click !!!

หลังจากนั้นก็ไปวัดใหม่สุวรรณพุทธาราม..เหมือนจะเป็นวัดใหญ่เหมือนกัน ดูโบราณกว่าวัดก่อนๆที่เข้า..ข้างในมีพระพุทธรูปที่เป็นเหมือนพระแก้วมรกตอยู่ด้วยล่ะ

วัดใหม่สุวรรณพุทธาราม

อุโบสถของวัด ...เก่ามาก ตอนแรกไม่นึกว่ามีพระสงฆ์อยู่นะเนี่ย

พระประธาน

(จำลอง) พระแก้วมรกต ..อันนี้ไม่รู้แฮะ ..แต่เป็นหินสีเขียวใสๆอ่ะ

ปฏิมากรรมฝาผนัง..เป็นลายนูนๆออกมาด้วยนะ

เดินไปอีกหน่อยก็เป็นตลาดม้งภาคกลางวัน แต่ก็มีของขายเหมือนภาคกลางคืนแหละ ของเหมือนกันไปหมด แต่คราวนี้ได้เสื้อยืดกลับมา 3 ตัว ...150 บาทเท่านั้น ผ้าดีด้วยนะ

11.30
หมดละอ่ะ ไม่มีไรแล้ว ..เลยเดิกลับไปโรงแรม check out เลยละกัน ...มาถึงตอนนี้เกิดปัญหาเล้กน้อย เพราะมีการจำราคากันผิด แบบว่าเราเข้าใจกันว่า 2 คืน 580 บาทไง แต่เค้าบอกว่ามัน 600 กว่าบาท เลยเถียงกันอยู่ซักพัก ...เลยต้องรอคนบอกราคาเรา..ก็น้องคนที่เอาน้ำร้อนมาให้นั่นแหละ ตอนนี้ดันไปเรียนภาษา เสร็จตอนเที่ยงๆ ต้องรอเค้ากลับมาก่อน ค่อยมาตกลงราคากันอีกที

เราก็เลยไปกินข้าวรอ มื้อนี้กินข้าวปุ้น (ขนมจีน) กะต้มแจ่ว (ตอนแรกเข้าใจว่าต้มแจ่วจะคล้ายๆต้มแซ่บ แต่ที่ไหนได้เป็นน้ำซุปต้มเครื่องในธรรมดา) แถมด้วยชองหวานตบท้าย ..เป็นเผือกต้มกะทิ กะถั่วดำต้มผสมกัน ...อร่อยอีกแล้ว (หรือว่าเรากินง่ายไปหว่า ???)

ร้านข้าวปุ้นที่เราไปกินกัน

ยังเหลือเวลา...เดินชมเมืองกันหน่อยเน้อ~~~

ร้านอาหารเลอตัมตัม ที่ชาวบ้านแถบนั้นบอกให้ไปกิน แต่เราไม่ได้กิน

Spa ลาวค่ะเพื่อนๆ ..น่าเข้ามะ ??

กินเสร็จเที่ยงกว่าๆ กลับมาเรือนพัก คุณน้องเราก็กลับมาแล้ว แล้วก็ยืนยันว่ายังไง๊ ยังไง ก็ให้ได้แค่ 640 เราก็ยืนยันไปว่าจะเอา 600 .. ต่อไปต่อมา คุณเธอขอตัวเข้าไปหลังบ้าน ...ไอ้เราก็นึกว่าจะไปเจรจากะเจ้าของโรงแรมให้ ..ที่ไหนได้ ซักพัก มันถือชามก๋วนเตี๋ยวเดินออกมา แล้วมานั่งโต๊ะเดียวกะเรา บอกว่า
"หิวข้าว...ขอกินก่อน"
....ดูมัน...

แต่สรุปก็ให้ไปแหละ 640 บาท ขี้เกียจต่อ กะให้เงินลาวไปอีกหน่อย แล้วเราก็ออกไปเดินเล่นกันต่อ ..อบ่าเรียกว่าเดินเล่นเลย..ไปหาร้านกาแฟนั่งกินมากกว่า ..มีร้านนึงชื่อ พูนทรัพย์ อยู่ในซอกเล็กๆ แต่แบบว่าเค้กก็ดูน่ากิน เลยแวะไปกิน ..ก้อนแรกอร่อย เลยมีก้อน 2 ตามมา ....555 นั่งคุยกันอยู่นานมาก สุดท้ายกว่าจะออกจากร้านได้ ล่อกาแฟไป 2 เค้ก 2 ไอติมซันเดย์อีก 1 ....หมดไป 120 บาท ....คุ้มเจงๆๆๆๆ

ออกมาเดินเล่นต่อไปอีกหน่อย คราวนี้มาเจอโรงเรียนอนุบาล ประถม มัธยมเรียงกันเลย หน้าโรงเรียนมีขายของเล่นเด็กด้วย ..ดูแล้วนึกถึงเมื่อก่อนมากๆ ..เดินเลยโซนโรงเรียนไปอีกหน่อย เจอซอยทะลุไปแม่น้ำขาม วิวแถวนี้สวยอ่ะ โชคดีที่เดินมา ถ้าไม่ได้มาเจอคงเสียดายอ่ะ ..รู้สึกว่ามาไม่ทั่วเมืองแน่ๆๆๆ

ถนนศรีสว่างวงศ์...มาหลวงพระบางต้องมาถนนนี้นะ

คุณพ่อมารับคุณลูกที่โรงเรียนอนุบาล

เด็กน้อยโดดยางที่โรงเรียนประถม

ส่วนโรงเรียนมัธยมนี่ยังกะตึกร้าง~~~

ร้านขายของเล่นเด็กๆ ..คิดถึงจัง

มีระบายสีสาวน้อยน่ารักด้วยนะ เลยซื้อมาระบายเล่นซะหน่อย

แต่ข้างในดันเป็นอุลตร้าแมน ..เซ็งเลย (--')

แม่น้ำขามฝั่งขวา

แม่น้ำขามฝั่งซ้าย

ก่อนกลับมาดูถนนที่ไร้แผงลอยซะหน่อย !!!

17.00
สมควรแก่เวลากลับที่พักค่ะ ...เพราะเดี๋ยว 18.30 ต้องออกจากที่พักไปขึ้นรถเดินทางไปเวียงจันทน์ ..ต้องไปอาบน้ำ อาบท่ากินข้าวให้เรียบร้อยก่อน

มื้อเย็นนี้ยังไงๆ ก็ต้องกินสลัดผักน้ำ (เมื่อวานมันเป็นผักอยู่ในยำไส้ตัน อร่อยมากๆ เลยเรียกเด็กมาถามว่านี่ผักอะไร แล้วเค้าเลยบอกว่าสลัดผักนี้นี่ก้เป็นเมนูเด็ด แต่เมื่อวานสั่งไม่ไหวแล้ว...ตอนหลังมาคุยกะคนอื่น ก็รู้สึกว่าเป็นเมนูที่ต้องสั่งเหมือนกัน ..แสดงว่าลิ้นเราใช้ได้แฮะ) กะอีกอย่างยังไม่ได้กินลาบที่นี่ เลยสั่งลาบเป็ดมากินกันซักหน่อย

ระหว่างกินอยู่ เจ้าของเรือนพักก็เดินมาคุยด้วย บอกว่าเค้าเป็นคนทำกับข้าวเอง แล้วก็ถามๆว่ารสชาติเป็นไง ถูกปากมั๊ย พอดีเค้าไปเรียนมาจากที่เวียงจันทน์ ... เราว่าฝีมือเค้าใช้ได้เลยแหละ ..เท่าที่สั่งมานี่ก็อร่อยหมดอ่ะ

สลัดผักน้ำจานเด็ดค่ะ
ผักเส้นๆที่โผล่ออกมาให้เห็นนั่นล่ะ ผักน้ำ
เจ้าของร้านบอกว่าผักนี้ปลูกเองไม่ได้ มันจะขึ้นตามน้ำตก ..ที่อื่นไม่มี ต้องที่หลวงพระบาง

กินเสร็จก็อาบน้ำอาบท่า (check out แล้ว แต่ยังใช้ห้องน้ำได้) แล้วก็ได้เวลาไปท่ารถพอดี
ไปถึงท่ารถตอนยังไม่ทุ่มนึงเลย เค้าบอกว่ารถ VIP ที่เราจองไว้เต็มแล้ว เหลือแต่รถธรรมดา ..ไรว้า??? อุตส่าห์มาก่อนตั้งนาน คือแบบว่าแต่ละคนที่รับจองเนี่ย เค้าแค่ออกแค่ประมาณใบเสร็จรับเงินมาให้เราไง แล้วพอเราเอาใบนั่นมาให้ท่ารถ เค้าถึงจะจัดรถให้ คราวนี้ใครมาก่อนก็ได้ไปก่อน เซ็งเลย ต้องนั่งรถธรรมดา กว่าจะได้ออกก็ตั้ง 2 ทุ่มกว่าๆ แถมไอ้คนข้างหน้าก็สูบบุหรี่มันอยู่นั่นแหละ แบบว่าตอนดึกๆแอบละเมอด่าไปทีด้วย ...มันเหม็นนี่น่า

รถที่เรานั่งกันคืนนี้ (ของจริงสภาพเห่ยกว่ามากๆๆ)

คนขับซิ่งมากๆ ได้ข่าวว่ากำหนดการต้องถึงเวียงจีนทน์เกือบๆ 6 โมง แต่พี่แกพาซิ่งมาถึงเวียงจันทน์ตั้งกะตีสี่ครึ่ง ...เหอๆๆๆ เจ๋งมะ ?? แต่ว่าเดียร์น้อยหลับสนิทค่ะ ตอนเช้ามาคุยกะต้องตา บอกมันว่าไม่น่าเชื่อว่าจะหลับสนิทขนาดนั้น มันก็แอบด่า
"เออ เด่ะ รถกระแทกหินแรงจะตาย แกแม่งยังไม่ตื่นเลย"
.....ก็มันง่วงนี่.......

อ่านตอนต่อไป >>>>>>>