30/12 : เวียงจันทน์ - หนองคาย

<<<<< อ่านตอนที่แล้ว

เหนื่อยมากๆอ่ะวันนี้ แบบว่านั่งรถมาทั้งคืนแล้วมันเพลีย ..ก็บอกกะไอ้ต้องว่า ..สู้ๆ วันสุดท้ายแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้นอนสบายๆ ...คุณเพื่อนที่น่าร๊ากก็แอบด่าอีกรอบ
"นี่แกหลับสนิททั้งคืนขนาดนั้น แกยังไม่พออีกหรอไง"
..เอาน่า...หลับง่ายไม่ดีหรอไงเล่า

คือมาถึงท่ารถตอนตี่สี่กว่าๆ ก็ต้องต่อ 2 แถวมาที่ตลาดเช้า ...ไอ้เราก็กะว่าเดี๋ยวจองตั๋วเข้าหนองคายให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยไปเที่ยวเวียงจันทน์ไง แล้วเค้าเปิดให้จองตอน 7 โมงแน่ะ เราก็รอ ร๊อ รอ ..ลืมบอกไปว่าพี่ที่มาจากรถตู้ที่หลวงพระบาง 2 คนมาด้วยกันกะเราด้วย คราวนี้เลยกะเที่ยวไปด้วยกันเลย (ชื่อพี่ตุ๊ กะเจี๊ยบ ..เป็นพยาบาลที่รพ.จุฬา)

เรานั่งสัปหงกกันซักพัก ต้องก็ชวนไปหากาแฟกินแก้ง่วง ก็พอดี๊ พอดี ไปนั่งกินกาแฟกะลุงคนนึง ... แกก็บอกๆๆๆว่าที่เวียงจันทน์มีอะไรเที่ยวมั่ง เลยถามว่าแกพาเที่ยวได้ป่ะ คิดยังไง ..แกก็คิดเหมา 100,000 กีบ (ถ้า 4 คนก็ไม่แพงนะ) เราก็เลยมาคุยกะเพื่อนในทีมซะหน่อย

ตอนกลับมาเนี่ย พวกเราที่เหลือกำลังถูกสามล้อรุม ถามว่าจะไปไหนๆ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร มีแล้ว แล้วก็บอกพี่ๆว่าเนี่ย ไปเจอลุงมา ..ไอ้คุณสามล้อก็สุดแสนจะไม่มีมารยาท มาตั้งป้อมฟังพวกเราคุยกันเลย แถมพยายามจะแทรกตัดราคาอีก จนพี่เค้าทนไม่ไหว บอกว่า ขอคุยกันเองก่อนได้มั๊ย มีไรแล้วจะไปบอกเอง ไม่ต้องมายืนฟัง ..แต่รอบแรกพี่แกก็ยังไม่ยอมไปนะ ต้องขึ้นรอบสองถึงจะเดินไปแต่โดยดี

พอที่จองตั๋วเปิด ..ปรากฎว่าเค้าไม่ให้จองล่วงหน้า (แล้วเรารอไรกันฟะ) เราก็เลยเริ่มออกเดินทางเลย หอบกระเป๋าขึ้นสามล้อลุง แล้วลุงก็พาไปเที่ยวที่ประตูชัยก่อน

โฉมหน้าสามล้อที่พาเราตะลอนกันวันนี้

นั่งรถผ่านตลาดเล็กๆของเวียงจันทน์

ตอนดูไกลๆมันสวยนะ ดูอลังการดีด้วย แต่แบบว่าพอมาดูใกล้ๆแล้วเหมือนมันสร้างไม่ค่อยเสร็จอ่ะ แถมพออ่านประวัติแล้วได้ความว่าเพิ่งสร้างมาไม่กี่ปี (แต่ดูเก่ามาก) เลยแอบตกใจนิดนึง ...จริงๆเราอยากขึ้นไปดูข้างบน แต่ตอนนั้นมันยังไม่ถึงเวลาเปิด ตอนแรกก็รอ แต่รอจนถึงเวลาก็ไม่เปิดซักที สุดท้ายเลยไม่เอาดีกว่า ...หิวข้าวด้วย ไปหาข้าวกินก่อนท่าจะดี เหอๆๆๆ

ประตูชัย ...ดูแล้วได้อารมณ์ทัชมาฮาลมะ ??

มาดูข้างบนกันใกล้ๆหน่อย

จิตรกรรมที่เพดานด้านใน

อยากรู้ประวัติก็มาอ่านได้ ~~~

มาดูแบบมีมิติกันมั่ง

ลุงพาไปกินเฝอ (อีกแล้ว) กะชา กาแฟ แต่ร้านที่พาไปนี่เป็นร้านที่ขายหน้าบ้านไง เลยขอเข้าไปทำธุระล้างหน้าล้างตา แปรงฟันกันเรียบร้อย ...คนลาวนี่ใจดีจริงๆ..อิอิ

ระหว่างลุงขับ แอบถ่ายจากกระจกหลัง (เห็นมะนั่น???)

โรงเรียนอนุบาลหลังร้านก๋วยเตี๋ยว ..ตอนถ่ายนี่แปรงฟันอยู่เลยนะเนี่ย !!!

มาดูอักษรลาวกันหน่อย

กินเสร็จก็ไปเที่ยวพระธาตุหลวง (ซึ่งไม่รู้ประวัติ) ก็เลยเดินดูแต่บริเวณรอบๆ ไม่ได้เข้าไปตามเคย (ค่าตั๋วมันแพงอ่ะ ไม่คุ้ม ถ้าเทียบกะว่าเข้าไปแล้วไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติม)

พระธาตุหลวง

เค้าเอาข้าวหนียวมาถวายกัน ...แต่ปั้นวางไว้รอบๆเลย หมายความว่าไงก็ไม่รู้อ่ะ

พระปางนาคปรก ..เมืองลาวนี่จะบูชาพญานาคมาก

กะอันนี้ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นพระแม่ธรณี..เห็นอยู่หลายวัดเหมือนกัน

พอเที่ยวสถานที่ทางศาสนาแล้วไม่อินซักเท่าไหร่ เลยให้ลุงพาไปดูห้างของลาวหน่อย ..ลุงแกก็ดี๊ ดี พาไป ลาวไฮเตค ..แบบว่าห้างใหญ่มากของที่นี่แล้ว มีโรงหนังด้วยนะ (แต่เปิดตั้ง 15.30) โบว์ลิ่ง สนุกเกอร์ด้วย เจ๋งมะ ..แต่อันนั้นคงเปิดเย็นมั้ง เพราะตอนเราไปยังกั้นรั้วอยู่เลย

ลาวไฮเตค ...ห้างใหญ่ยักษ์ของเวียงจันทน์

ปล. คนลาวนี่ทำงานกันส๊าย สาย 10 โมงกว่าๆแล้วยังเปิดไม่ครบเลย แล้ว11 โมงนักเรียนก็พักเที่ยงละ ..กว่าจะเข้าเรียนก็ล่อไปบ่ายสอง ...เค้าทำงาน / เรียนกันวันละกี่ชม. เนี่ย ??

ในลาวไฮเทคเนี่ยเหมือนตอนศูนย์สิริกิติ์จัดงานเลยอ่ะ แบบว่าเป็นซุ้มๆ ..แต่มันก็ไม่มีอะไรน่าซื้อ แล้วก็เปิดไม่หมดด้วย ...เลยมานั่งกินกาแฟกัน แล้วก็กะว่าไปเที่ยวอีก 2 ที่ที่เหลือแล้วไปหาที่นอนน่าจะ work กว่าแฮะ

ออกมาจากลาวไฮเทค ลุงก็พาไปเที่ยววัดศรีเมือง กะหอพระแก้ว อันหลังนี่ไม่ได้เข้าไปหรอก ดูอยู่รอบนอกเฉยๆ

ทางเข้าวัดศรีเมือง

ภายในวัด...คนเยอะมากๆๆ

ที่นี่เค้าจะเอาของใส่ถาด แล้วเอาถาดขึ้นจบล่ะ ..สะดวกดีเหมือนกันนะ

เจ้าแม่ศรีเมือง...น่าจะนะ

หอพระแก้ว (ด้านนอก)

หมดละ ... เที่ยงพอดี พอดีผู้ร่วมทีมอ่านหนังสือมาว่าที่นี่มีพิซซ่าหม้อดิน เลยไปหากินกันซะหน่อย หานานมากกว่าจะเจอ แบบว่าอากาศร้อนด้วยมั้ง เลยรู้สึกว่านานมาก... กว่าจะหาเจอ กินเสร็จ ก็หมดเวลาหาที่นอนละ ...เลยไปนั่งร้านน้ำปั่น แล้วก็แช่อยู่นานมาก ... จนเกือบๆ 3 โมงค่อยไปที่ท่ารถ ...และแล้ว ...ก็เกิดเรื่องจนได้ ..เหอๆๆๆ Y_Y

สวนสาธารณะริมฝั่งโขงค่ะ

คือแบบว่าพอไปจองตั๋วรอบ 15.30 (ถ้าไม่ทันรอบนี้ ตกรถชัวร์) ปรากฏว่าตั๋วเต็มแล้ว ...ซวยล่ะสิทีนี้ เลยต้องหาเหมารถไปที่ด่านลาวเอา ..รถสามล้อแถวนั้นก็โขกสุดๆ แบบว่าถ้าซื้อตั๋วเนี่ยไปกันคนละ 35 บาท แต่สามล้อมันเรียกคนละ 50 แล้วก็พูดทำนองว่าหาถูกกว่านี้ก็ไม่มีใครไปหรอก (หน้าตากวนตีนมาก) แต่สุดท้ายเราก็หาที่เค้าคิดเราคนละ 30 ได้อยู่ดีแหละ ...แล้วพอดี๊ พอดีว่าเจอคนหนองคายที่จะเข้าไทยตกรถเหมือนกัน ..เลยได้เพื่อนร่วมทางเพิ่มมาอีก 2 คนซะงั้นอ่ะ ..อิอิ

ระหว่างทางไม่รู้คุยกันถูกคอหรือไง ...พี่คนทีอยู่หนองคายก็บอกว่า เดี๋ยวไปถึงด่านไทยแล้วเค้าโทรเรียกที่บ้านมารับให้ แล้วเดี๋ยวพาไปส่งท่ารถเลย ..เราก็แอบดีใจ..อิอิ สบายเรา ...แต่ว่าโชคดีเกินคาด ..คือเราก็ไปถึงก่อนรถออกหลายชั่วโมงอยู่อ่ะนะ ..พี่เค้าเลยพาไปที่บ้านเอาของไปเก็บก่อน แล้วพาไปเที่ยววัดโพธิ์ชัยที่หนองคาย แถมเล่าประวัติให้ฟังอีก

พระพุทธรูปที่วัดนี้ชื่อว่า หลวงพ่อใส เมื่อก่อนถูกสร้างมา 3 องค์เป็นพี่น้องกันชื่อหลวงพ่อใส หลวงพ่อเสก หลวงพ่อสุก (ถ้าจำไม่ผิดนะ) แล้วอัญเชิญมาทางแม่น้ำโขง แต่ระหว่างทางองค์นึงตกลงไปอยู่ใต้แม่น้ำ แล้วองค์นี้พอมาถึงแถบนี้ก้เกิดเกวียนหนัก หรืออะไรซักอย่าง เดินทางต่อไม่ได้ แล้วอีกองค์นึงไปอยู่ที่วัดไหนซักวัดอ่ะ (พี่เค้าเล่า แต่จำไม่ได้) พระองค์นี้เลยเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของหนองคายเลย

วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย

หลวงพ่อใส ...พระประธานของวัด

ที่นี่ไฮเทคมาก แบบว่าในวัดมีเครื่องให้ไปกดดูได้ว่าหนองคายมีอะไรเที่ยวมั่งอ่ะ ..เดิ้นสุดๆ

ผู้ร่วมทีมค่ะ ..จากซ้ายก็ พี่ตุ๊ ต้องตา พี่ป๋อ พี่เชอรี่ เจี๊ยบ
(พี่ป๋อนี่คนหนองคาย แต่พี่เชอรี่นี่คนกรุงเทพไปเที่ยวที่นั่นพอดี)

ไหว้พระเสร็จ พี่เค้าก็พาไปกินปากหม้อญวณ (ภาษาที่นี่เรียกว่าอะไรซักอย่าง จำไม่ได้) เค้าบอกว่าอร่อยสุดแล้ว ...ป้าคนที่ทำนี่เค้าเป็นคนเวียตนามด้วยนะ

นี่เลย..ร้านที่เราไปกิน (เราไปเองคงหาไม่เจอ)

โรยแป้งก่อนนะคะ เป็นแผ่นบางๆ

เสร็จแล้วก็เอามาห่อไส้ ให้เราได้กินกัน

เสร็จแล้วเหลือเวลา ..จริงๆตอนแรกเค้าจะพาไปเดินตลาดท่าเสด็จ ที่เป็นตลาดนัดขายของชายแดน แต่เวลาเหลือน้อย เลยพาไปซื้อหมูยอให้กลับมาฝากที่บ้านกัน ..เหอๆๆๆ.... ดีจริงๆ ถ้ามากันเองนี่คงไม่วายนั่งเซ่ออยู่ที่ท่ารถจนได้เวลาออกแหละ ... อิอิ

พอได้เวลาพี่เค้าก็พามาเอาของที่บ้าน..พวกเราเลยขอแปรงฟัน ล้างหน้าให้เรียบร้อยอีกรอบก่อนเดินทาง ..แล้วพี่เค้าก็พาไปส่งที่ท่ารถอ่ะ ..น่ารักมากๆๆๆ โชคดีของพวกเราจริงๆ ... เรามาถึงรถทันเวลาพอดิบพอดี ...สภาพรถห่วยเล็กน้อย ..แต่เอาเหอะ ...เดี๋ยวก็หลับละ

หลับสนิทเกินคาดอีกรอบ ... กว่าจะถึงกรุงเทพรูตัวไม่เกิน 5 รอบ ...อิอิ

31 ธันวา 2548 , 6 โมงเช้า ..ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ...กลับถึงบ้านก็อาบน้ำนอนทันที...ตื่นอีกทีเกือบบ่ายสาม...เหอๆๆๆ (เราไปเที่ยวนี่แทนที่จะอดนอน อาจจะได้นอนเยอะกว่าปกติก็ได้นะ)