28/12 : หลวงพระบาง, ล่องแม่น้ำโขง
บ.ทัวร์กำชับนักหนาว่า 8 โมงต้องพร้อมนะ ห้ามเลท ...เรากะต้องก็ตรงเวลาเต็มที่ แต่แบบว่าเนื่องจากรู้ speed ในการแต่งตัวตอนเช้าแล้ว ตื่นเอาเกือบๆ 7 โมงก็ทัน เสร็จแล้วก็กินข้าวเช้าเป็น traditional sandwich ที่นี่ (ภาษาบ้านๆเรียกแป้งจี่) พอถึงเวลาก็ไปถึงที่นัดหมายพอดิบพอดี
8.00
ทัวร์ที่เราไปนี่เป็นทัวร์ล่องแม่น้ำโขงกัน แล้วแวะตามหมู่บ้านกะถ้ำ แล้วก็น้ำตก รวมทั้งหมดเที่ยว 4 ที่ 300 บาทเท่านั้น (คุ้มนะ) เราไปถึงตรงเวลาเป๊งนะ แต่ไปเป็นกลุ่มแรกอีกแล้ว...รออีกชาตินึงกว่าคนจะเต็มเรือ ..เวลานัดที่ลาวนี่บวกเพิ่มยิ่งกว่าของไทยอีก ...แอบเซ็ง
เกือบๆ 9 โมงค่อยออกเดินทางมั้ง ที่แรกที่เราจะไปคือ "หมู่บ้านทำกระดาษสา" พอถึงที่หมาย คนขับเรือก็ไม่พูดไรเลย บอกแค่ว่า " 15 minutes here" ...จบ... แบบว่าไม่ถามว่าที่นี่ที่ไหนก็ไม่ยอมบอก
เค้าบอกเป็นหมู่บ้านทำกระดาษสานะ แต่ข้างในมี work shop กระบวนการทำไหม ...เที่ยวเพลินไปหน่อย ลืมดูเวลา พอเดินไปลงเรือสรุปว่าเค้ารอกันอยู่ทั้งเรือเลย (ท่าทางจะเลทนานด้วย) ...ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจ Y_Y
วัตถุดิบในการย้อมสีไหม
ไหมที่ย้อมแล้วก็หน้าตาแบบนี้
9.30
ลงมานั่งเรือไปอีกนานมากๆๆๆๆๆ (ตอนนี้อากาศหนาว ใส่เสื้อตั้ง 3 ชั้น) จุดหมายต่อไปเป็นหมู่บ้านต้มเหล้า แต่พอไปถึงปรากฎว่ามีร้านขายเหล้าอยู่ตรงท่าเรือประมาณ 2 ร้าน นอกนั้นขายผ้าไหมหมด ..เฮ้อ ..จัดฉากทั้งทีจะตั้งร้านเหล้าให้มันเยอะกว่านี้ไม่ได้เหรอเนี่ย ???
ไปลองสาโทของที่นี่มา ..แรงเหมือนกันนะเนี่ย!!!
ขึ้นเรือกันทางไม้กระดานแบบนี้แหละ
เสร็จแล้วก็นั่งเรืออีกชาติกว่าๆ ไปถึงที่หมายสุดท้ายช่วงเช้า ...เค้าเรียกว่า "ถ้ำติ่ง" (อย่าถามประวัตินะ ไม่สามารถตอบได้) มาถึงถ้ำก็เจอกองทัพเรือจอดอยู่ ...คนมาเยอะอ่ะ (แต่ในถ้ำไม่ค่อยมีไรให้ดูหรอก )
ถ้ำติ่ง...จุดหมายปลายทางของเรา
กองทัพเรือ...คนมาเที่ยวเยอะมาก
ที่นี่แบ่งออกเป็น 2 ถ้ำหลักๆ คือถ้ำล่าง เดินขึ้นไปนิดหน่อยก็ถึง กะถ้ำบน ที่ต้องเดินบันไดขึ้นไปอีกไกลเหมือนกัน (แต่ต้องขึ้นเพราะค่าเข้าแพง)
ถ้ำล่างเนี่ยก็จะประมาณว่ามีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ให้ไหว้ แล้วก็มีพระพุทธรูปเก่าๆวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด พอออกจากถ้ำ (ที่ความกว้างประมาณแค่พลิกตัวกลับ) ก็ต้องเดินขึ้นบันไดอีกทางไปถ้ำบน ... ขึ้นบันไดไปอีกไกลๆ สังขารก็ ...นะ .. แต่เอาวะ ..มาทั้งทีต้องไปให้ถึง
คาดว่าเป็นเซียมซีลาว...แต่ไม่ได้เสี่ยง
ไปถึงปากถ้ำก็ดูโอเคนะ ประตูอลังการเล็กน้อย... ปกติก่อนไปไหว้พระเนี่ยเค้าจะขายดอกไม้ธูปเทียนใช่ป่ะ แต่ที่นี่มีพ่วงมาอีกอย่าง ...อะไรรู้มะ ?? ....ติ๊ก ต่อก ติ๊ก ต่อก ....ไฟฉายค่ะ ไฟฉาย ตอนแรกก็งงๆนิดหน่อย แต่พอเข้าไปก็เลยถึงบางอ้อ ..ถ้ำมืดมากๆๆๆ อาศัยแสงไฟจากประตูอย่างเดียว ไม่มีติดไฟอะไรในนี้ทั้งนั้น ก็เลยเดินเข้าไปแค่ระยะที่ไฟธรรมชาติส่องถึง แล้วก็ลองใช้กล้องถ่ายดูว่าข้างในเป็นไง
ก็คือเป็นลานกว้างๆแหละ มีพระประธานอยู่องค์แล้วเหมือนเป็น stage หินยกสูงขึ้นมาหน่อย ให้ขึ้นไปนั่งไหว้พระได้ ...ก็ดูโบราณดีนะ แต่ไม่รู้เพราะว่าไม่รู้ประวัติความเป็นมาของสถานที่รึเปล่า เลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่อ่ะ (เสียดายเหมือนกันนะ)
ประตูถ้ำที่ดูอลังการหน่อยๆ (ถ้าเทียบกะของที่เหลือ)
หมดละ ไม่มีอะไรดูละ ..ที่นี่เค้าให้เวลาตั้ง 45 นาทีแน่ะ เหลือเวลาอีกตั้งนาน ไม่มีอะไรให้เดินดูแล้วอ่ะ ..ไปรอบนเรือก็ได้ว้าาา (อ้อ ลืมบอกไปว่าอากาศที่นี่นี่สุดยอดของความแปรปรวน ตอนเช้าใส่มาตั้ง 3 ชั้น แต่ตอนเที่ยงนี่ ชั้นเดียวก็เกินพอ ..ร้อนมากๆๆๆๆอ่ะ)
11.30
เดินทางกลับไปท่าเรือ แวะกินข้าวก่อน เพราะน้ำตกที่จะไปตอนบ่ายนี่อยู่อีกทาง แล้วต้องนั่งรถตู้ไปด้วย ...
ขามานี่ชื่นชมธรรมชาติริมฝั่งโขงมานานละ ..ขากลับก็เลยหลับค่ะ ... หลับสนิทสุดๆของสุดๆ (อีกแล้ว)
13.00
ใช้เวลาเดินทางนานเหมือนกันแฮะ หัวหน้าทัวร์บอกว่าแยกย้ายไปกินข้าวกลับมาเจอกันตอน 13.30 เดี๋ยวไม่ทัน เราก็เลยหาที่กินแถวนั้น ...เฝออีกตามเคย แต่ก็กินได้อ่ะ คนละร้าน มันก็อร่อยดีเหมือนกันแหละ แต่ประมาณว่าคุณแม่ค้าร้านนี้นี่ใจเย็นสุดๆ แบบว่าเราก็สั่งไปใช่ป่ะ แล้วต้องตารอในร้าน ..เราเดินไปฝั่งตรงข้ามจองตั๋วกลับเวียงจันทน์พรุ่งนี้ ...คุยกันต่อราคาเรียบร้อยกลับมาแล้ว ก๋วยเตี๋ยวยังไม่มาเลย (--')
ซักพัก(เกือบๆบ่ายครึ่งละอ่ะ) พี่แกเอามาส่งให้ชามนึง แล้วก็ถามว่าเราจองตั๋วไปเท่าไหร่ บลาๆๆๆ ตอนแรกเราก็ตอบอ่ะนะ แต่พี่แกถามไม่เลิก (แต่ก๋วยเตี๋ยวเรายังไม่ได้) เลยต้องบอกไปว่า
"พี่คะ ขอก๋วยเตี๋ยวหนูก่อนได้มั๊ยคะ ทัวร์เค้ารออยู่"
พี่แกเลยกลับไปที่หม้อลวกเหมือนเดิม แล้วก็บ่นๆว่า "ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น เค้านัดไปกี่โมง"
"นัดเวลานี้เลยค่ะพี่ ...หนูมานั่งร้านพี่เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว"
ไม่พอนะคะ ไม่พอ ..... พอแกเอาชามก๋วยเตี๋ยวมาให้ เราก็ลงมือ speed up เต็มที่ แต่พี่แกยังอุตส่าห์ขอตั๋วดูอีก ..เฮ้อ ..อะไรกันนักกันหนาเนี่ย.. เราก็ยื่นไปให้ดูแหละ เค้าก็ดูๆ แล้วก็ถามว่า รวมค่าตุ๊กๆไปท่ารถมั๊ย ถ้าไม่รวมคิดเท่าไหร่ บลาๆๆๆ แต่ตแนนั้นไม่ค่อยได้ตอบละอ่ะ ..มัวแต่กิน ..สุดท้ายเค้าเลยคืนตั๋ว แล้วก็เลิกถามไป ..
งงๆๆแฮะ... โต๊ะข้างๆก็คนไทย ไม่ไม่ถาม มาถามไรแต่โต๊ะเรา
(ต้องตาให้ข้อสังเกตว่าท่าทางเราคงเป็นมิตรจัด เพราะไปที่ไหนก็มีแต่คนเข้ามาคุยด้วย เด็กที่เรือนพักก็มาคุย เจ้าของเรือนพักทั้งที่วังเวียง กะหลวงพระบางก็มาคุย คนขับรถที่พาไปน้ำตกก็คุย แต่ไม่เห็นคุยกะคนอื่นเลย...ท่าจะจริงของมันนะ)
15.00
ได้เวลาก็ไปที่นัดหมาย แล้วก็นั่งรถอีกเกือบชั่วโมงไปน้ำตกตาดกว่างสี (ที่ในโบชัวร์บรรยายว่าสวยมาก) รถไปจอดที่ทางเข้าน้ำตก แล้วก็ต้องเดินไปอีกซักระยะกว่าจะถึงน้ำตก ...ข้างทางก็มีของขาย กะมีสัตว์ป่าเล็กน้อย (เสือ 1 ตัว กะหมี 2 ตัวในกรง) ..กว่าจะถึงน้ำตกก็ลุ้นระทึกว่าจะเป็นไง เพราะไอ้ที่เที่ยวมาตอนเช้านี่ก็สุดยอดของความไม่มีอะไรไป 3 รอบละ แต่พอเจอเข้าจริงๆ ก็โอเคนะ ..สวยดีเหมือนกัน ... สีน้ำมันสวยดีอ่ะ จริงๆน่าเล่นเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยนเนี่ยสิ ...แอบเสียดายหน่อยๆแฮะ
ทางเข้าน้ำตก ..เรานั่งรถตู้อย่างนั้นมาแหละ
ตามทางมีขายหัตถกรรมพื้นบ้านเรียงราย
มีจัดเป็นสวนหย่อมให้นั่งเล่นด้วยนะ
มาถึงน้ำตกละ ..เห็นอย่างนี้ของจริงใหญ่เหมือนกันนะ
ต้นไม้ใหญ่มากๆ..ต้องตาเหลือตัวนิ๊ดเดียว
สีสันสดใสมั๊ยคะ ?? อิอิ
แบบว่าแต่งตัวเข้ากะบรรยากาศได้อย่างไม่ได้ตั้งใจ
ได้เวลาก็กลับมาที่นัดหมาย (จริงๆกลับมาก่อนนานมาก เพราะไม่มีอะไรให้ดูมากแต่ให้เวลาน๊าน นาน) แล้วระหว่างขากลับ เค้าก็แวะให้ดูหมู่บ้านม้ง ..ชาวม้งตัวเล็กมากๆๆๆๆอ่ะ แบบว่าแอบตกใจเหมือนกัน แต่บรรยากาศแถวนั้นสวยนะ ..แบบว่าเทือกเขากะหมอก สวยกำลังดีเลยอ่ะ
หมู่บ้านม้งค่ะ ..ชาวบ้านเอาเด็กๆออกมาขายของ
17.30
กลับมาถึงแถบที่พัก ...เค้าให้ลงตรงแถวๆตลาดของกิน เดินผ่านตลาดของกิน ตลาดม้ง แล้วก็จะถึงโซนที่พัก
เราก็ตั้งใจไว้เต็มที่ว่า ยังไงๆวันนี้ก็ต้องกินอาหารลาว...กินมันที่เรือนพักแหละ ขี้เกียจเดินหา แต่แอบแวะซื้อของจากตลาดเข้าไปด้วย ทั้งของคาว ของหวาน ... เดินๆซื้ออยู่ได้ยินคนร้องเพลงท่าทางมีนส์มาก เหลือบไปเห็นป้าคนนึงร้องเพลงอยู่ในห้องแถวมืดๆ ...ด้วยความเสล่อก็เลยวิ่งไปยืนหน้าตึกแล้วถ่ายรูปเพราะเข้าใจว่าเป็นคาราโอเกะลาว ....แต่พอกลับเรือนพัก ต้องตาบอกว่า
"ชั้นว่าตรงนั้นมันเป็นซ่องนะ...เห็นผู้หญิงยืนอยู่เต็ม มืดๆ แถมร้องเพลงทะลึ่งอีก"
....แป่ว.... ไม่รู้นี่หว่า ก็ไม่ได้นั่งแปลเพลงนี่ ไม่ได้ดูรอบๆด้วย ..เสล่อไปยืนถ่ายรูปหน้าซ่องอีกตู ...เฮ้อ!!!!
พอมาถึงเรือนพัก ก็สั่งอาหารลาวเต็มที่ ของพื้นบ้านของที่นี่ต้องกิน "เอาะราม" มันเป็นแบบต้มผักเละๆกะเนื้อหมูอ่ะ ..เราสั่งเอาะราม ส้มตำปลาร้า (ใส่แต่น้ำ) กะย้ำไส้ตันมากิน (เพราะซื้อไก่ย่างกะเมี่ยงมาจากข้างนอกแล้ว) สั่งเสร็จก็บอกเด็กไว้ว่า ถ้าอีกชั่วโมงนึงไม่ลงมา ขึ้นไปตามด้วยนะ แล้วเรา 2 คนก็ไปอาบน้ำอาบท่าให้หายเหนื่อยซะหน่อย ..วันนี้ฝุ่นทั้งตัว
เสร็จธุระเรียบร้อยกำลังจะลง น้องแกก็ขึ้นมาตามพอดี (ทำตามคำสั่งเคร่งครัดดีมาก) แถมบอกด้วยนะ ..."เนี่ย...ตำส้มน่ากินมากๆเลย"
..จ้ะ น้อง โปรโมทอาหารซะเหลือเกิน ..ถ้าไม่อร่อยนะ น่าดู....
แต่อาหารที่นี่อร่อยนะ ต้องสั่งต้มแจ่วเพิ่มอีกอย่าง ...เหอๆๆๆ... แล้วคุณน้องเด็กโรงแรมนี่ก็บริการดี๊ ดี แบบว่าเดี๋ยวๆเอาน้ำมาเสริฟ แล้วเห็นเราเอาไก่ย่างมานั่งกินไง ...ก็เอาจานเปล่ามาให้ แถมมาถามอีกว่าจองตั๋วไปเวียงจันทน์รึยัง มีสามล้อรึยัง ถ้ายังไม่มีบอกมันได้ บลาๆๆๆ
อาหารมื้อนี้ ...ยังขาดต้มแจ่วไปอีกชาม
กินเสร็จ อิ่มมากๆๆ หมดไป ประมาณ 200 กว่าบาทไทย แล้วเลยขึ้นไปพักผ่อนบนห้องซะหน่อย ..ก่อนขึ้นขอน้ำร้อนน้องเค้าไปแก้ว พอน้องเค้าเอาขึ้นไปให้ เรากำลังคุยกันอย่างเมามันส์ เปิดประตูมา น้องแกยื่นแก้วน้ำร้อนให้แล้วพูดว่า "สนุกจัง"
ไอ้เราเหลือบไปเห็นป้าย "ห้ามส่งเสียงดังตอนกลางคืน" ติดอยู่หน้าประตู..เอ..มันแอบด่าเรารึเปล่าหว่า ???
ซักพัก ต้องขอออกไปเดินข้างนอกอีกรอบค่ะ ..ให้อาหารมันย่อยหน่อย อืดมากๆๆๆ (แต่มันผักทั้งนั้นนะ ไม่น่าจะอืดนาน) พอได้เวลาก็กลับมานอน พรุ่งนี้จะไปใส่บาตรข้าวเหนียว เราดันอยากกินกาแฟเลยขอน้ำร้อนน้องแกอีกรอบ
คราวนี้มันตอบกลับว่า "ขอ 200 ได้บ่"
เราก็ตอบอย่างทันทีและหนักแน่นว่า "ไม่ให้"
...เหอๆๆๆ เดี๋ยวรอติ๊ปทีเดียวตอนพี่ไปนะน้องนะ
แล้วตอนเอาน้ำร้อนขึ้นมาให้เนี่ย มีการมาถามอีกด้วยนะ "เป็นอะหยังกัน คือมักกินน้ำฮ้อน"
ก็กินน้ำร้อนแล้วมันสบายท้องกว่านี่น่า....
คืนนั้นกินกาแฟ turbo ของต้องตาไป ..นอนไม่หลับเลยทั้งคืน ...เศร้า Y_Y
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น
<< Home