พนมบาแก็ง ฯลฯ

ออกเดินทาง 9 โมงเช้ามุ่งตรงไปยังเขาพนมกุเลนที่เคยเป็นค่ายทหารของเขมรแดง นั่งรถไปประมาณสองชม.ได้ ระหว่างทางไกด์ก็เล่าเรื่องสมัยเขมรแดงให้ฟัง น่าสงสารมากๆ ลูกทัวร์ตั้งใจฟังกันใหญ่ พอไปถึงบนยอดเขาก็เจอพวกอดีตทหารเขมรแดง ตอนนี้เป็นคนดูแลเขานี้ไปแล้ว ระหว่างก็มีป้าย " MINE DANGER " แถวนี้คงไม่มีนักท่องเที่ยวกล้าเดินสุ่มสี่สุ่มห้าแน่ๆ


สรุปการขุดระเบิด


ข้างบนก็แม่น้ำเล็กๆ (เรียกว่าลำธารท่าจะเหมาะกว่า) ที่พื้นแม่น้ำมีแกะสลักสหศิวะลึงค์(ที่เห็นเป็นตุ่มๆในรูปน่ะ)และนารายณ์บรรทมสินธ์เป็นระยะทางเกือบ 300 เมตร เค้าบอกว่าแต่ก่อนนี้ทีนี่เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธื์ สำหรับพราหมณ์และกษัตริย์อาบน้ำล้างบาป ด้านล่างเป็นน้ำตกให้คนธรรมดาถึงให้คนธรรมดาอาบ


รูปแกะสลักศิวลึงค์และนารายณ์บรรทมศิลป์ใต้น้ำ


เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงวัดอะไรซักอย่าง มีก้อนหินใหญ่มาก แล้วคนก็อุตส่าห์ขึ้นไปสร้างวัดอยู่บนหิน เดินต่อไปเรื่อยก็ถึงน้ำตก มีศาลาเล็กๆสร้างไว้เต็มเลย ให้คนเช่านั่งๆนอนๆกินข้าวได้ (ศาลาละ 5000 เรียว=50บาท) พวกเราก็ไปนั่งกินข้าวกล่องกันริมน้ำตก ทำไมไม่ลงไปกินข้างล่างเขาน่ะหรอ ก็ถนนที่ขึ้นมามันแคบมาก รถวิ่งได้ทางเดียว เพราะฉะนั้นตอนเช้าจะเป็นขาขึ้น ตอนบ่ายค่อยเป็นขาลง


ศิวลึงค์+ฐานโยนีในวัด เอาน้ำราดแล้ววักน้ำที่จะตกลงมาเป็นน้ำมนต์

กินข้าวเสร็จก็ไปอีกปราสาทนึง (ขออภัยจำชื่อไม่ได้ ไปหลายที่เกิน) เป็นปราสาทที่สร้างจากหินทรายสีชมพู แกะสลักๆอีกแล้ว เป็นปราสาทขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งเรื่องความวิจิตรบรรจง





จากนั้นไปที่ "อโรคยาสาน"(ไม่รู้สานสะกดไงนะ)ประจำรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่7 หรือก็คือโรงพยาบาลนั่นเอง ทีแรกคิดว่าเป็นหินๆก่อๆเป็นห้องขนาดใหญ่ ไปถึงกลายเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่กะบ่อปล่าวๆไม่มีน้ำ 4 บ่อรอบๆแทน มีบ่อหลักตรงกลางเอาไว้ใส่สมุนไพรลงไป อีก 4 บ่ออยู่ประจำ 4 ทิศของบ่อหลัก แทนธาตุดิน น้ำ ลม ไฟของแต่ละคน แต่ละบ่อก็จะมีช่องปล่อยน้ำให้คนมารับไปกินรักษาโรค เป็นวิธีรักษาโรคของคนสมัยนั้น


น้ำออกมาจากปากนี้


น้ำในบ่อนี้อ่ะ

ถัดไปก็ไปปราสาทพระขรรค์ โอ..เหมือนเขาวงกตมากๆ เป็นห้องเล็กๆๆๆๆ เรียงๆกันใหญ่มาก บางด้านก็ถล่มลงมายังไม่ได้บูรณะก็เข้าไม่ได้ เดินที่นี่ต้อง"ประหยัดกบาล" หรือ "ระวังศีรษะ" กันดีๆ ไม่งั้นอาจจะโดนหามไปอโรคยาสานได้


ประหยัดกบาล!


เด็กเขมรตามที่ท่องเทียวเยอะมาก ร้องกันระงม "ซื้อหน่อยสิพี่~~"