เมืองโบราณ ...ปราสาทจำลอง (ตอนที่1)

วันนี้มารวมตัวกันไปทัศนศึกษาซะหน่อย นัดกันแถวบ้านเก้าโมงเช้า อิ๋วโทรมาตอน 8 โมงกว่าๆบอกง่าจะถึงแล้ว แต่โทรไปหาคุณต้องตากะคุณหมีไม่มีใครรับสาย สรุปว่ากว่าจะออกได้ก็เกือบ 10 โมงโน่นแน่ะ (แต่อีก 2 คัยที่ตามไปสมทบก็มาถึงเวลาพอๆกันแหละ ..ก็ดี จะได้ไม่มีใครด่าใคร ..^^)

ไม่รู้นุชไปได้ตั๋วฟรีมาจากไหน สรุปว่าพวกเราเข้าไปกัน 9 คนรถ 2 คัน เสียเงินเพิ่มกันคนละ 50 บาทเอง ... พอจ่ายเงินไปเรียบร้อยก็ไปดูแผนที่ ทำเครื่องหมายตรงที่เค้าแนะนำว่าห้ามพลาดกันซะก่อน แล้วก็เดินทางเข้าเมืองโบราณกันเลย!!!(คราวนี้คุณหมีอาสาขับรถให้..ไม่ต้องขับเอง สบายขึ้นมาหน่อย)
เส้นทางที่เราเข้าไปเนี่ย เริ่มจากทางภาคใต้ก่อน แล้วค่อยๆไล่ขึ้นไปทางเหนือ เข้าไปได้นิดเดียวก็เจอตำแหน่งแรกที่เค้าแนะนำ

"ตลาดโบราณ" อันนี้ก็เป็นสภาพตลาดสมัยก่อนธรรมดา ตกแต่งแบบโบราณๆ เราก็ลั้ลลากันถ่ายรูปที่นี่กันซะยกใหญ่ (ที่แรกมักจะเป็นที่ที่หยุดกันนานเป็นพิเศษอยู่แล้วอ่ะ)

ก่อนเดินเข้าตลาด ก็ถ่ายรูปกันซะหน่อย


เจอร้านตัดผม(จำลอง)...ไฉนเลยจะอยู่เฉยๆ (^^)


ร้านค้าเต็ม 2 ข้างทาง


ประตูทางออก


ระหว่างทางก็มีต้นไม้เต็มไปหมดอย่างนี้แหละ ....ร่มรื่นๆๆ

ออกจากตลาดโบราณ ก็เดินผ่านศาลาการเปรียญ (ตรงนี้เป็นเรือนไทยโบราณธรรมดา ไม่มีอะไรมาก) ก็เดินไปขึ้นรถกันแล้วก็ไปที่อื่นต่อ ....
(ระหว่างทางเหมือนจะผ่าน พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ราชบุรี : เป็นของนิกายมหายาน ศิลปะแบบลพบุรี)

อันนี้รู้สึกจะเป็นพระปรางค์ที่ว่าแหละ

เสร็จแล้วก็ไปถึงที่จอดรถอีกที่..ตรงนี้มีที่ให้ไปดูหลายที่เลย เริ่มจาก เดินผ่าน ท้องพระโรงกรุงธนบุรี (พระราชวังเดิม) ก่อน อันนี้ไม่ได้เข้าไป แต่ในหนังสือบอกว่าข้างในมีภาพเขียนพงศาวดารเมืองธนบุรีด้วยนะ

เดินเที่ยวๆๆ

รู้สึกว่าจะเป็นแถวๆท้องพระโรง ฯ

ถัดไปก็เดินผ่านสวนขวา ที่เป็นโซนปะติมากรรมจีน แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของสวนในวังเมื่อก่อน (แต่ภายหลังมีการรื้อถอนออกไป)

รูปปั้น 8 เซียนในสวน

อันนี้ตรงศาลา


ตรงไหนไม่รู้ แต่รูปสวยดี (^^)

จากนั้นก็ไปที่เรือนต้นกันมั่ง ..อันนี้ก็เป็นเรือนไทยที่มีที่ให้ลั้ลลาถ้ายรูปกันได้เยอะอีกแล้ว ..เรือนต้นนี้ ร.5 โปรดให้สร้างเป็นที่พักแบบสามัญชน แต่สร้างอยู่ในบริเวณของพระราชวังดุสิตเลย

หน้าบันไดก่อนขึ้นเรือน

พักจากปราสาทมาที่พระที่นั่งดุสิต มหาปราสาท ...ของจริงอยู่ที่กรุงเทพนี่เองแหละ (แต่ไม่เคยไป^^') อันนี้สร้างขึ้นใหญ่โตเท่ากัยที่เคยมีในสมัยอยุธยา แล้วก็สร้างแทนปราสาทเก่าที่เสียหายไปแล้วด้วย ปัจจุบันเป็นปราสาททรงไทยแท้ที่เหลืออยู่อย่างสมบูรณ์ที่เดียวในประเทศไทย

บรรยากาศรอบพระที่นั่ง


ก่อนเข้าไปข้างใน


ข้างในก็สวยดี

ออกจากปราสาทนี้จะเดินไปอีกที่นึง เจออะไรก็ถ่ายรูปดะ จำไม่ได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไรอ่ะ (^^')

มาถึงที่หมายต่อไปแล้ว....อันนี้เป็นพระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ใหญ่โตอลังการมาก ข้างหน้ามีศาลาเล็กๆให้พักด้วย ก็เลยไปนั่งกันซะหน่อย ...ไอ้คุณหนุ่มก็นั่งดีๆไม่เป็น นอนเหยียดเต็มที่อย่างไม่อายสายตาผู้คน (แต่เพื่อนๆเนี่ย..อาย...รู้ไว้นะเพื่อนนะ)

ศาลาพักผ่อนหน้าปราสาทค่ะ ...ดูไอ้หนุ่มมัน !!!

พระที่นั่งอันนี้เป็นพระที่นั่งโบราณในสมัยอยุธยา สิลปะในการสร้างก็เป็นเอกลักษณ์ของอยุธยาด้วย แต่เสียดาย..ปัจจุบันของจริงถูกพม่าเผาไปเรียบร้อยแล้ว Y_Y

นี่แหละ โฉมหน้าของโลหะปราสาท


ข้างในก็วิจิตรอลังการใช่ย่อย

ผ่านพระที่นั่ง ก็มาที่วิหารพระศรีสพรรเพชญ อยุธยาอีกเหมือนกัน เอก่อนเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระศรีสรรเพชญที่เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองสมัยอยุธยา แต่ต่อมาพม่ามาเผาแล้ก็ลอกเอาทองไปหมด จนซากที่เหลืออยู่นี่ก็ไม่สามารถบูรณะได้ (แบบจำลองอันนี้ จำลอง"ซาก" มาเลย ไม่ได้จำลองแบบสภาพดีเหมือนที่อื่น)

ซากปราสาท

เดินมาหลายที่..ชักเหนื่อย ...เหลือบไปเห็นร้านกาแฟโบราณ เลยแวะไปกินซะหน่อย (แต่ทุกคนสั่งโค้ก ไม่มีใครกินกาแฟโบราณเลย) ในร้านตกแต่งด้วยโปสเตอร์หนังโบราณๆ แล้วก็มีขวด มีลังน้ำอัดลมยี่ห้อเก่าๆเยอะแยะเลย ..คลาสสิกดีล่ะ

ในร้านกาแฟ

ออกมาจากร้านกาแฟ ตรงข้ามก็เป็นมณฑปพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ของจริงก็สร้างคร่อมรอบพระพุทธบาทตามที่รู้ๆกันนั่นแหละ แต่ว่าสร้างตามคำบรรยายของสุนทรภู่ ก่อนการซ่อมแซมในภายหลัง ลักษณะกาตกแต่งเลยอาจจะต่างจากของจริงนิดหน่อย

ทางขึ้นมณฑป


ซูมเข้ามาใกล้ๆซักหน่อย

ซูมอีกรอบ (หน้าไอ้ต้องตอแหลมาก!!!)


ตอนนี้อยู่ข้างบนมณฑปละ

เสร็จแล้วก็ไปเที่ยวพระปรางค์สามยอดต่อ ที่นี่สวยดี ตั้งโล่งกลางสนามเลย พอมาเป็นขนาดจิ๋วแล้วดูน่ารักดีแฮะ ...ที่นี่เค้าสร้างตามความเชื่อของพุทธ พระปรางค์ 3 องค์หมายถึงกาย 3 อย่างของพระพุทธเจ้า คือ พระธรรม (ธรรมกาย) กายในวัฎสังขาร..เกิด แก่ เจ็บ ตายอ่ะ (สัมโภคกาย) กับกายบริสุทธิ์ ปราศจากกิเลศ (นิรมานกาย)

ระหว่างทางก็อดไม่ได้ที่จะเก็บภาพ


พระปรางค์สามยอด (สวยเนอะ)


พอมีคน(อย่างพวกเรา) เข้าไป...พระปรางค์ก็ดูหมองทันที ...เหอๆ


เอาเป็นฉาก Wedding studio ซะเลย (^^)

จากที่นี่ เดินข้ามสะพาน + ถนนไปก็ถึงหอพระแก้ว ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ความเป็นศูนย์กลางทางศาสนาสมัยอยุธยา ..ประมาณว่าตอนอยุธยาไปรบชนะเมืองต่างๆก้เอาของบรรณาการกับของศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองต่างๆมารวมไว้ที่นี่แหละ

สังเกตตากล้องข้างหลัง ...เล็งทุกอย่างที่ขวางหน้า

มาถึงพอพระแก้วละ ..ตรงนี้มุมสวยดี เป็นศิลปะการสร้างแบบจีนๆ ...มีมุมให้ถ่ายรูปกันเพียบบบบบ^^


โพสท่าปกติ


โพสท่าแปลกๆตามคำสั่งตากล้อง


ข้างในเก๋งจีน


..... (^^)

และแล้วก็สมควรแก่เวลา ...ถึงจะเดินกินขนมที่ซื้อกันมาจากตลาดโบราณเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ก็หิ๊ว หิว เลยไปแวะกินข้าวกันซะหน่อย ก่อนจะลุยที่เหลือต่อ (ตอนนี้ไม่เหลือใครสามารถเดินเที่ยวต่อละล่ะ ทั้งเหนื่อย ทั้งเมื่อย ร้อนอีกต่างหาก)

ก็ขับรถไปที่ตลาดน้ำเลย ... ที่นี่เหมือนจะเป็นศูนย์อาหารของเมืองโบราณ พอเข้าไปก็มีที่ให้นั่งเต็มเลย มีให้เลือกว่าจะปูเสื่อนั่งที่ศาลาริมน้ำ ไม่ริมน้ำ หรือจะนั่งโต๊ะก็แล้วแต่จะชอบใจ ...แต่มาเมืองโบราณทั้งทีจะให้นั่งโต๊ะก็ดูไม่เข้ากะบรรยากาศ เลยไปนั่งเสื่อกันริมน้ำ สั่งส้มตำ ลาบ น้ำตก กันมาเต็มที่ ...ไม่พอต่อด้วยของหวาน ..เหอๆๆๆ

กินกันอลังการมะ ??


หน้าส้วม...ฝีมือถ่ายรูปของอีหนุ่ม

กว่าจะรู้ตัวก็ล่อไปเกือบ 2 ชั่วโมง ..นานกว่าเวลาที่เดินเที่ยวกันอีก ..อิอิ อ้อ ...พอกินของคาวเสร็จ ผึ้งตามมาแจมอีกคนนึงด้วย

อิ่มแล้วก็เดินรอบๆตลาดน้ำไปเรื่อยๆ ..แบบว่าที่นี่เค้าก็แต่งร้านน่ารักดีนะ ร้านตัดผมก็มีเขียนภาษาโบราณๆไว้หน้าร้าน ร้านอาหารก็มีโปสเตอร์หนังโบราณๆแปะ (เราว่าหนังบางเรื่องเราทันได้ดูนะ แต่ทำไม๊ ทำไมโปสเตอร์มันดูโบราณขนาดนั้นก็ไม่รู้แฮะ)

หล่อซะ ...






ผลัดกันถ่ายๆๆ






ถ่ายเงาๆๆ





ตากล้องซะหน่อย เดี๋ยวเค้าจะน้อยใจ

พาหนะในการเดินทางค่ะ

อ่านตอนต่อไป >>>>>>