23/10: เดินทาง ผีซิ่ว โชว์เปลี่ยนหน้ากาก
***ชั้นไม่ได้ตื่นสายวันนี้ซะหน่อย มั่วจริงๆแก***
วันนี้เป็นอีกวันที่ต้องตื่นเช้ากว่าปกติหน่อย ถ้าจำไม่ผิด พี่สุให้เอากระเป๋ามาวางไว้ที่หน้าห้องตอน 7 โมง แล้ว 7 ครึ่งรถจะออกจากโรงแรม
7 โมงตรงเป๊ง เราก็เดินไปเคาะห้องรินจังและเกี๊ยวซ่า หงังจะเรียกลงไปกินข้าวพร้อมกัน ..ซักพักไม่เห็นมีใครมาเปิดประตู ก็เริ่มเอะใจ ..แต่ซักพักก็มีเสียงตึงตังๆมาเปิดประตู
รินจังโผล่หน้าออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่รู้เลยว่าเพิ่งตื่น เราเลยถามออกไปทันทีว่า
"อย่าบอกนะว่าแกยังไม่ตื่นกัน"
"เออ"
"เค้าเอากระเป๋าออกมาวางกันหมดแล้วโว้ย"
สีหน้ายังคงนิ่งอยู่ แต่มันปิดประตูใส่หน้าทันที (คงตกใจจัด) เลยเคาะให้มันมาเปิดประตูอีกรอบ
..พอเข้าห้องไปได้ ก็เจอสภาพวิ่งวุ่นกัน 2 คน ใจนึงก็ขำ อีกใจนึงก็อนาถเพื่อน
"นี่แกไม่ได้ยิน moring call หรอวะ"
"ไม่เห็นมีเลย"
"แต่แบบว่าสายโทรศัพท์แกยกออกมาแล้วนะ"
รินจังนิ่งไปซักพัก ก่อนจะตอบกลับมาว่า ..."เออ ชักคุ้นๆว่ะ"
(ไม่คุ้นได้ไงวะ ...ยกสายออกชัดๆ)
โชคดีเมื่อคืนเก็บของกันเรียบร้อย เช้านี้เลยแค่ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อ แล้วก็เอากระเป๋าออกมาวาง
และแล้วเช้าที่ระทึกก็ผ่านไป ........................
*** เหตุการณ์ด้านบนนี่เกิดวันอื่นนะ วันสำคัญที่ทุกคนต้องตรงเวลาเนี่ย เรากะรินก็ตรงเวลากันดี (แต่ง่วงมากขอบอก)***
ก่อนออกเดินทางก็เอาพลาสเตอร์แปะสะดือ แล้วก็ตั้งท่านอนเรียบร้อย แล้วก็ไม่รู้เลยว่าผ่านอะไรบ้าง มารู้ตัวอีกที ตอนที่แวะเข้าห้องน้ำหลังจากเดินทางมาได้ซัก 2 ชั่วโมง แล้วมีการรื้อกระเป๋าออกมาจากใต้ท้องรถ ...ผลสรุปของความวุ่นวาย โรงแรมโทรมาบอกว่ามีกระเป๋า2 ใบค้างอยู่ที่โรงแรม แล้วหลังจากที่เราเช็คกันแล้วก็เป็นกระเป๋าของพี่ 2 คนในกรุ๊ปเรา ... คราวนี้เราก็เลยต้องให้คนของโรงแรมนั่ง taxi เอากระเป๋ามาให้ ...แต่ว่ารถเราก็ยังคงต้องไปต่ออ่ะนะ เพราะถ้าหยุดรอจะเสียเวลาเกิน
เรื่องนี้ก็เป็นที่ฮือฮา (อย่างลับๆ) กันว่าตกลงเรื่องนี้ใครผิดกันแน่ เพราะทางพี่เจ้าของกระเป๋าบอกว่าเอากระเป๋าออกมาข้างนอกแล้ว แล้วทางไกด์ก็เห็น (ซึ่งคุณไกด์ก็น้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ออก) แต่ทางโรงแรมบอกว่ากระเป๋าอยู่ในห้องนอน ไม่ได้เอาออกมาข้างนอก แล้วก็มีพยานรู้เห็นอย่างลับๆมายืนยันว่าตอนที่โรงแรมขนกนะเป๋าลงไปข้างล่างแล้วไม่มีกระเป๋าเหลืออยู่จริงๆ
~~~อันนี้ก็แล้วแต่จะคิดกันนะคะ ...ปริศนายังไขไม่กระจ่าง...เหอๆๆๆ~~~
ที่ไหนซักที่ที่นั่งรถผ่าน แล้วลงไปถ่ายรูปได้ ...แต่เรานอนรอในรถล่ะ รูปนี้รินจังไปถ่ายมา (^^')
เหมือนจะเป็นกำแพงเมืองโบราณเนี่ยแหละ
คราวนี้เราต้องเดินทางชะลอๆหน่อย รอ taxi โรงแรม ..ก็เลยมาแวะที่โรงงานหยกกัน แล้วทุกคนก็ไปรุมกันที่เคาน์เตอร์ของ "ผีซิ่ว" กันอย่างไม่นัดหมาย กวาดกันไปหลายตัวอยู่ (จริงๆที่โรงงานนี้เราว่าแพงเหมือนกันนะ แต่งานก็ค่อนข้างละเอียดแหละ ..ถือว่าสวยเหมือนกัน) ตอนแรกเรานึกว่าที่โรงงานนี้ต่อราคาไม่ได้ แต่ต่อได้เยอะเกินคาด จาก 480 เหลือ 300 อ่ะ ถ้าไม่รู้คงเสียรู้ไปเยอะเนอะ
ผีซิ่ว ....สัตว์เลี้ยงของฮ่องเต้
=================================================
มาดูตำนานของผีซิ่วกันซักนิดนะ (ตามที่ไกด์เล่าล้วนๆ)
ผีซิ่วเนี่ยเค้าว่ากันว่าเป็นลูกของมังกรตัวที่ 9 ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาบนโลก จะมีลูกของมังกรคอยดูแลอยู่ แล้วช่วงนี้ก็เป็นช่วงของผีซิ่ว
คนจีนเชื่อว่าถ้าเลี้ยงผีซิ่วจะช่วยเรียกเงินเรียกทองเข้ามา (เค้าถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนะ ไม่ใช่เทพให้บูชา) เวลาเลือกผีซิ่วต้องเอาตัวที่ปากกว้างๆ ให้เอาเงินเข้ามาได้เยอะๆ ,หน้าดุๆ จะได้ไม่มีใครมาเอาเงินออกจากปากไป แล้วสุดท้ายต้องก้นใหญ่ๆ เพราะจะได้เก็บเงินได้เยอะๆ
ถ้าคิดจะเลี้ยงผีซิ่ว ต้องมีทำพิธีกรรมเล็กน้อย คือเอาไปแช่น้ำอุ่น เสร็จแล้วก็มาแช่น้ำเย็น แล้วก็ต้องตั้งชื่อให้ แล้วเรียกให้เค้ามาอยู่ด้วย คุยกะเค้าเยอะๆบอกให้เค้าเอาเงินมาให้ เอาเงินมารูดที่ปาก เหมือนให้เค้ากินบ่อยๆ แล้วเวลาทำบุญ ก็อย่าลืมทำให้เค้าด้วย ถ้าเลี้ยงดีๆ แล้วเค้าก็จะหาเงินมาให้เราได้
บางคนบอกว่าผีซิ่วเป็นเหมือนกุญแจที่ให้เราเอาบุญที่ทำไว้มาใช้ได้ ...ประมาณซ่าคนเรามีผลบุญที่จะทำไว้อยู่แว แต่บางทีจะยังไม่เห็นผล แต่ผีซิ่วเนี่ย จะช่วยให้เราเอาบุญมาใช้ได้ก่อน ซึ่งหมายความว่า เราก็ต้องทำบุญเรื่อยๆด้วย ไม่งั้นบุญจะหมด
ผีซิ่วมีหลายแบบ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าแต่ละแบบความหมายต่างกันยังไง รู้แค่ว่าถ้าเป็นข้าราชการจะนิยมบูชา (เลี้ยงสิ เขียนเองข้างบน บอกว่าไม่ใช่เทพไม่ต้องบูชา )แบบที่มีปีก เพราะจะช่วยให้หน้าที่การงานก้าวกน้าเร็ว แล้วก็มีตัวผู้ตัวเมียด้วย (ถ้าตัวใหญ่หน่อย) ตัวผู้จะเท้าขวาอยู่หน้า มีหน้าที่เรียกเงิน แล้วตัวเมียเท้าซ้ายอยู่หน้า เพื่อเก็บเงิน (แต่ตัวเล็กๆไม่ค่อยมีเพศ คือทั้งเรียกทั้งเก็บในตัวเดียวกันเลย)
=================================================
ออกจากโรงงานหยกก็เดินทางๆๆๆๆ แล้วก็มาแวะที่ะเลสาปเต๋อซีอีกครั้ง เพื่อรอ taxi โรงแรม แล้วเราก็แลกของกันได้เรียบร้อย (พี่สุหมดค่า taxi ไปหลายตังค์) ได้ยินแว่วๆมาว่า 300 กว่าหยวน แล้วก็เดินทางต่อ ...เหมือนจะแวะที่โรงงานหยกอีกที่นึง งานละเอียดไม่เท่าเมื่อเช้า แต่ราคาย่อมเยากว่ากันเยอะ ..แล้วก็มีคนหมดตังค์กะที่นี่ไปกะผีซิ่วอีกเช่นเคย..อิอิ
ขากลับรถติดมากๆๆๆๆ ไปดูโชว์หน้ากากเกือบไม่ทัน ..จริงๆไม่ทันแล้วแหละ พี่สุขอให้ไปดูโชว์ก่อนแล้วมากินข้างทีหลัง ..หิวมากๆๆ กว่าจะได้กินข้าวก็ล่อไปหลายทุ่ม ..
โชว์มีหลายอัน เริ่มตั้งกะโชว์งิ้วสามก๊ก ชักหุ่นกระบอก เล่นเงามือ ศิลปะการใช้เท้า ฯลฯ กะสุดท้ายโชว์เปลี่ยนหน้ากาเนี่ยแหละที่ฮือฮากันพอควร ..เปลี่ยนเร็วมากๆๆๆ คงมีทริกอะไรซักอย่างแหละนะ
งิ้วสามก๊ก ที่เกี๊ยวซ่าต้องตอบคำถามรินจังอย่างสม่ำเสมอว่าใครเป็นใคร ..เหอๆๆๆ
เกี๊ยว: คนนี้ไง ลิโป้
ริน: ลิโป้คือใคร??
--'
โชว์หุ่นกระบอก..เล่นเก่งมาก
โชว์ตลก ตอนนี้เค้าเอาเทียนวางบนหัวแล้วลอดเก้าอี้
ศิลปะการใช้เท้า ..ขาแข็งแรงมากๆๆๆๆอ่ะ
ดูโชว์จบก็ไปกินข้าว แล้วกลับโรงแรมนอน ...พรุ่งนี้จะกลับแล้ว !!!!
<<<<< อ่านตอนที่แล้ว อ่านตอนต่อไป>>>>>
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น
<< Home