= TaLonGirls = by KeawZaaa & ^^Dear^^

วันอาทิตย์, มีนาคม 12, 2549

ไหว้พระอยุธยา

ตั้งกะกลับจากเมืองโบราณ ก็วางโปรแกรมกันว่าไปไหว้พระที่อยุธยากันดีกว่า (จริงๆคือไปกินกุ้ง แต่เลยไปไหว้พระด้วยจะได้ดูมีสาระขึ้นมานิดนึง) ตอนแรกๆก็มีคนอยากไปเยอะดี แต่เอาเข้าจริงๆ คนนั้นคนนี้ก็ไม่ว่าง เลยเหลือไปอยู่นิดเดียว ..เศร้าจัง

วันศุกร์ยังคุยกะอิ๋วว่าสงสัยไปกันแค่ 4 คน คือเรา อิ๋ว ริน (ว่างไปทุกงาน) แล้วก็เชน อีกคน แล้วอยู่ๆไอ้หมีกะไอ้หนุ่มก้โทรมาบอกว่าไปด้วย แล้วจะพาคนไปสมทบ

อิ๋วบอกว่าจะไปกี่คนก็บอกมา เพราะจะได้จองกุ้งไว้ถูก

คืนวันเสาร์ ไอ้หนุ่มโทรมาบอกว่าจะพาไปด้วย 17 คน....เฮ้ยยยย.... ขนไปทั้งตระกูลหรอไงวะ...มันบอกว่าน้องพัดปิดเทอมเลยจะพาไปเที่ยว แล้วก็เพื่อนๆน้องอีก (จริงๆคือญาติแปปด้วย) ..เอ่อ ..นะ

เช้าวันอาทิตย์ ก็รับคุณหมี ริน เชน ไปบ้านไอ้อิ๋วก่อน แล้วก็รอคุณชายหนุ่มเตรียมความพร้อมค่อยออกไปเจอกันที่โลตัสบางใหญ่
พอวนเข้าไปถึงเท่านั้นแหละ OH MY GOD!! นี่เราพาเด็กไปทัศนศึกษาหรอไงวะ ประมาณว่าในกลุ่มเกือบๆ 20 คนเนี่ย มีอายุเกิน 20 ซัก 5 คน เกิน 15 ซัก 2-3 คน นอกนั้นต่ำกว่า 15 (ถึง 10 รึเปล่ายังไม่รู้เลย) ... แถมแต่ละคนนี่เสื้อสีชมพู ส้ม ฟ้า เป็นเด็กน้อยหลากสีสันสุดๆ .... อึ้งไปเล็กน้อย

เชนถามว่า "เราจะไปกินข้าวที่อยุธยากัน 3-4 คนไม่ใช่หรอ ?? "
....ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแบบนั้นอ่ะ แต่ไม่รู้ว่าไอ้หนุ่มจะขนตระกูลมาซะขนาดนี้.....

ได้เวลาก็ออกเดินทาง (บ้านไอ้หนุ่มนี่รถตู้มา 2 คัน) แล้วอิ๋วก็พาไปทางศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ...เลยศูนย์ไปซักหน่อยก็จะเจอวัดเชิงเลน ...เลี้ยวเข้าไปก็ถึงที่หมายที่จะไปกินกุ้งวันนี้แหละ ถ้าจำไม่ผิดชื่อร้านเรือนไทยมั้ง ร้านไม่ใหญ่มาก ประมาณว่ากลุ่มเราเข้าไปก็ล่อไปครึ่งร้านแล้ว ..วันนี้ไม่มีกุ้งใหญ่ ได้กินแต่ขนาดกลาง แถมตอนพวกเราเดินเข้าไปเนี่ย มีกุ้งว่ายน้ำอยู่เต็มบ่อ ...พอออกมากุ้งหายเกลี้ยงเลย ...เหอๆๆๆ


ร้านอาหารเรือนไทย (ที่ไอ้อิ๋วบอกว่าเป็นเพิงหมาแหงนเล็กๆ)

โควต้าวันนี้ เราได้กินกุ้งเผากันคนละตัว แต่นอกนั้นเนี่ย สั่งกันกระจายมากถึงมากที่สุด แทบจะเอาทุกเมนูที่มีกุ้งมาเลยมั้ง (เด็กเยอะ เน้นเนื้อมากกว่าผัก) มีกุ้งเผา พล่ากุ้ง กุ้งทอดกระเทียม กุ้งอบกระเทียม กุ้งผัดเห็ดฟาง ฯลฯ ไม่รวมเมนูอาหารเนื้อสัตว์แบบอื่นนะ ...อิ่มมากๆๆๆ


กุ้งขนาดกลางของทางร้านค่ะ ...เนื้อนุ่มมั่กๆๆๆ


มาดูชัดๆกัน ..มันกุ้งเยิ้ม..เหอๆๆ


อาหารเต็มโต๊ะ


ย้ายไปดูโต๊ะเด็กๆกันมั่ง (แต่ 2 คนที่โผล่มานี่ก็ไม่ได้เด็กมากนะ)


ตั้งหน้าตั้งตากิน

สั่งอาหารเยอะ ครัวทำไม่ทัน ..เด็กๆเลยสั่งของหวานมากินกันไปพลางๆ (ผู้ใหญ่บางคนด้วย ..อิอิ)

คุณเด็กๆกินของหวานอยู่ พอของคาวยกมาตั้ง เด็กมันก็หันไปทางของคาว
"อ๊ะๆ กับข้าวมาละ กินกับข้าวก่อนดีกว่า"
พอกินไปซักนิด รูสึกว่าร้อนไปหน่อย
"ร้อนจัง ...ซดน้ำแข็งใสต่อซักหน่อย"
แล้วก็หันไปฟาดกับข้าวต่อ ......5555

สมควรแก่เวลา ...น่าจะซักประมาณชั่วโมงได้ ก็เก็บตังค์ ..เบ็ดเสร็จคนละประมาณ 300 (แต่มีสปอนเซอร์ออกให้นิดหน่อย เลยจ่ายกันแค่คนละ 200 ) ถูกมะ ?? เวิร์คมากๆๆ เพราะกุ้งเป็นกุ้งแบบว่าสามารถกินตัวเดียวอิ่ม แล้วยังอร่อยสุดๆ..วันหลังมากินใหม่ ..อิอิ


เก็บตังค์จ้ะ เก็บตังค์ ..ลุกกันได้แล้วเน้อ!!


ขึ้นรถ...เตรียมตัวออกเดินทาง
(เถียงกันอยู่นานว่าใครจะนำ..ประมาณว่าไม่รู้จักทางไปวัด รู้จักแต่ทางมากินกุ้ง!!!)

เริ่มเที่ยวค่ะ เริ่มเที่ยว ....
ออกจากร้านเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ (นานหน่อย) ก็จะไปเจอวัดนิเวศน์วรวิหาร (มั้งนะ) ที่อยู่ข้างๆวังบางปะอิน แล้วก็เป็นวัดกลางน้ำ ต้องนั่งกระเช้าข้ามไป เด็กๆก็ลั้ลลาตามประสา ขนาดเด็กขึ้นไปกระเช้าละ 6 คนได้นะ ยังต้องรอ 4 รอบมั้งกว่าจะครบกลุ่มเราอ่ะ


ก่อนขึ้นกระเช้าข้ามไปที่วัด


เด็กๆท่าทางจะชอบ


แหล่งพลังงานของกระเช้าข้ามแม่น้ำ


นี่แหละ วัดที่เราจะไปกัน


ข้ามมาแล้วก็ต้องเลาะเดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ

วัดนี้สร้างคล้ายๆโบสถ์ของคริสต์ล่ะ ข้างนอกเหมือนโบสถ์ ข้างในก็มีหินสีมาตกแต่ง แค่มีพระพุทธเป็นพระประธานอยู่ข้างใน แล้วก็พื้นตกแต่งตามแบบวัดไทย ข้างๆกำแพงมีคาถาของเสด็จพ่อร.5 สลักเอาไว้ ..พอดีมีพระสงฆ์อยู่ในอุโบสถ ท่านเลยบอกให้ไปอ่านคาถาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง แล้วก็พรมน้ำมนต์ให้ศีลให้พรเล็กน้อย


อันนี้เป็นอุโบสถวัดไทยนะ วัดไทย


ภายในอุโบสถก็ตกแต่งคล้ายๆของคริสต์


หลวงพ่อกำลังให้ศีลให้พร


เอ้า...ถ่ายรูปกันหน่อย


...แช๊ะ...

รอบๆวัดก็ร่มรื่นนะ แต่มีหลายที่เหมือนกันที่ดูโทรมลงไปเยอะละ ... เดินดูกันพอเป็นพิธีก็ออกเดินทางต่อไปวัดถัดไป ....


เอารูปมาคอนเฟิร์มความร่มรื่น


มีนาฬิกาแดดอยู่หลังอุโบสถด้วยนะ


อากาศร้อนมากๆ หนูๆทั้งหลายเลยขอกินไอติมก่อนไป ...

ทีนี้จะไปวัดพนัญเชิงนะคะ ...คนเยอะมากๆๆๆๆๆ วัดกว้างมีทั้งพระไทย พระจีน ..ทัวร์มาลงเยอะ (ไปวัดที่คนเยอะๆแล้วเวียนหัวแฮะ) ตอนแรกอยู่บนรถคุยกันว่าวัดนี้เพี้ยนมาจากชื้อ "พระนางเชิญ" แต่พอเข้าไปอ่านประวัติแล้วไม่ใช่แฮะ ประวัติที่เขียนไว้ในวัดบอกว่า หลวงพ่อโตองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดนี้ เมื่อก่อนเรียกว่า "พระเจ้าพระแนงเชิง" เลยตั้งชื่อวัดตามหลวงพ่อฯ สร้างมาตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงศรีฯอีกแน่ะ


วัดพนัญเชิง


บรรยากาศภายใน ..ได้อิทธิพลจีนมามั้ง สร้างเป็นชั้นๆเข้าไปเนี่ย


อุโบสถฝั่งขวา ..พระอะไรไม่รู้เหมือนกัน

หลวงพ่ออีก 2 องค์ที่สำคัญ คือ หลวงพ่อทองกับหลวงพ่อนาก ที่สร้างตั้งแต่สมัยสุโขทัยตอนปลาย เมื่อก่อนถูกปูนหุ้มไว้หลอกพม่า แต่หลังๆปูนกระเทาะออกเลยเห็นเนื้อใน ...ถ้าเข้าไปที่อุโบสถหลัก หลวงพ่อ 2 องค์นี้จะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนหลวงพ่อโตจะอยู่ข้างในสุดๆๆเลย


หลวงพ่อทอง(ซ้าย) กับ หลวงพ่อนาก (ขวา)..ตรงกลางเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น


ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนัง สวยดี


ห้องนี้มีแอร์ ...เลยไม่อยากลุกไปไหนเลย (^^)


มาดูหลวงพ่อโตองค์สำคัญกันมั่ง (ใหญ่มากๆ)


ที่นี่เค้าให้ถวายผ้าจีวรด้วย เจ้าหน้าที่ข้างล่างจะโยนขึ้นไปข้างบน แล้วต้องโยนขึ้นไปพาดบ่าองค์พระอีกที


คนถวายเยอะมากๆๆ

ขับรถเลยไปอีกหน่อย ก็เจออีกวัดนึงที่พลาดไม่ได้ คือวัดใหญ่ไชยมงคล ...เมื่อกี้วัดพนัญเชิงจะออกแนวจีนๆหน่อย แต่ที่นี่ไทยแท้เลย มีเจดีย์สมัยพระเจ้านเรศวรอยู่ด้วย ..ตอนแรกเราว่าจะไม่เดินขึ้นไปละ (ก็เคยขึ้นไปแล้วมันไม่มีอะไรนี่น่า) แต่เค้าขึ้นไปกันหมดจะให้นั่งอยู่ก็กระไร ...ขึ้นไปก็ได้อ่ะ


เจดีย์ชัยมงคล


ระหว่างขึ้นไปก็ถ่ายรูปซะหน่อย


บันไดที่นี่เป็นพื้นโค้งๆนะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

ถ้าขึ้นไปตรงๆ ข้างในเจดีย์จะไม่มี๊ ไม่มีอะไรเลย มีแต่ค้างคาวบินว่อนกะกลิ่นขี้ค้างคาวหึ่งๆ (Y_Y) แต่ถ้าเลี้ยวไปทางซ้าย ทางขวาเนี่ย ก็จะเห็นวิววัดรอบๆ สวยดีเหมือนกัน


บรรยากาศบนเจดีย์ฝั่งขวา


ไหนถ่ายลงไปดูข้างล่างซิ


ว้าววววววว


อ๊ะๆ ..เห็นเด็กๆอยู่ข้างล่างลิบๆ ..ถ่ายหน่อยซิ (จุดสีนั่นล่ะ ก๊กเราล่ะ)


สลับๆๆ ...ข้างล่างถ่ายข้างบนให้มั่ง ...555 (งี่เง่าดีแท้....)


เดินไปรอบๆก็จะเห็นบรรยากาศรอบๆวัดต่างกัน


พวกเด็กๆขึ้นมากันละ (เต็มบันไดเลย)


ก่อนจะเข้าไปดมขี้ค้างคาว(--')


เด็กๆบนเจดีย์


ก่อนจะลง


.......


เดินดูรอบๆอีกหน่อยก่อนไป


รูปหมู่...


ตั้งใจจะรูปเดี่ยว..แต่.......

ลืม....ประวัตินะคะ ประวัติ...วัดนี้สร้างโดยพระเจ้าอู่ทอง เพื่อเป็นที่ศึกษาพระธรรม เดิมชื่อวัดป่าแก้ว เป็นที่เลื่อมใสศรัทธามาก พระราชาธิบดีเลยแต่งตั้งพระของวัดนี้เป็นสังฆราชฝ่ายขวา (ชื่อตำแหน่งว่าสมเด็จพระวันรัตน) ต่อมาเมื่อพระนเรศวรออกศึกกับพระมหาอุปราชก็ชนะ ฆ่าพระมหาอุปราชได้ แต่ตีกองทัพพม่าไม่แตกในทันที เพราะกองทัพต่างๆตามไปไม่ถึง แต่เมื่อสงครามจบ พระนเรศวรยังโกรธแม่ทัพที่ตามมาไม่ทันอยู่จึงสั่งให้ประหาร แต่สมเด็จพระวันรัตนขอพระราขทานโทษไว้ แล้วแนะนำให้สร้างเจดีย์ใหญ่เพื่อเป็นที่ระลึกที่รบชนะพม่าได้ พระนเรศวรก็ทำตามคำแนะนำ แล้วสร้างเจดีย์ชัยมงคลขึ้นที่นี่ ...วัดนี้เลยเปลี่ยนเป็นชื่อวัดใหญ่ชัยมงคลด้วยประการฉะนี้แล.....


พระนอน ...เซทนี้ชมพู๊ ชมพูแฮะ

จบจากวัดนี้แล้วต้องออกนอกเส้นทาง(ที่ตรงมาตลอด)ไปหน่อย ไปที่วัดมงคลบพิตร ...แต่กว่าจะออกตัวมาได้นี่ใช้เวลานานอยู่ เพราะหิว (หรืออยาก) ไม่รู้ มันเหนื่อยมั้ง เลยแวะซื้ออะไรกินตามข้างทางของวัดใหญ่กันก่อน (โดยเฉพาะเด็กๆ) ..หารู้ไม่ว่าที่วัดมงคลบพิตรเนี่ย มีตลาดนัด ของกินเพียบบบบ!!!!

ออกจากวัดใหญ่มา ผ่านวงเวียนเจดีย์ เลี้ยวซ้าย ตรงโลดจนเจอสามแยก แล้วเลี้ยวขวา ผ่านวงเวียนอีกหนึ่ง ก็เป็นอันถึงที่หมาย ....

ตรงนั้นมีบึงพระราม แล้วก็วัดพระราม แล้วก็มีบริการให้ขี่ช้างเล่นด้วย (อึช้างตามทางเต็มไปหมด ต้องเดินดีๆ)


ตลาดหน้าวัดใหญ่ฯ


ขบวนช้างหน้าวัดมงคลบพิตร


แถวๆวัดมงคลฯ มี(ซาก)วัดพระรามอยู่ด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปล่ะ


(เกือบ)ตั้งใจว่าจะปันกำแพงเข้าไป แต่เผอิญไปเห็นป้ายห้ามซะก่อน (^^)


ระหว่างทางเจอโรตี ..ไฉนเลยจะไม่แวะกิน ..เหอๆๆ

มาถึงวัดละนะคะ ..วัดนี้ตั้งชื่อตามชื่อพระประธานค่ะเพื่อนๆ พระมงคลบพิตรเนี่ย เมื่อก่อนตั้งอยู่ทางตะวันออกของอุโบสถ แต่มณฑปเคยถูกฟ้าผ่าลงมาโดนทำให้พระศอหักไป จึงมีการซ่อมแซม (แล้วคาดว่าคงย้ายมาตั้งในทางตะวันตกเหมือนทุกวันนี้) ...ต่อมาสมัยมีศึกกับพม่าวิหารก็ถูกเผาทำให้พระมงคลบพิตรเสียหายอีก จนกระทั่งปี 2533 พระสังฆราชบอกว่าถ้าปิดทองจะทำให้ดูน่าเลือ่มใสขึ้น และพระราชินีองค์ปัจจุบันก็ทรงอยากให้บูรณะ จึงพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์มาให้ ทางวัดเลยดำเนินการปฏิสังขรณ์ปิดทองมาจนเป็นเหมือนทุกวันนี้


หน้าวัดค่ะ หน้าวัด


อันนี้เด็กๆ ..ดูสีสันดิ สดใสป่ะ

ไหว้พระเสร็จ ข้างๆมีซากวิหารพระศรีสรรเพชญอยู่ เลยพาเด็กๆเข้าไปเที่ยวซะหน่อย (ลืมบอกว่าเด็กกลุ่มนี้ไฮเปอร์มากๆ พาไปหย่อนไว้ตรงไหนก็วิ่งพล่าน)


เข้าใจว่าไอ้อิ๋วมันจะถ่ายรูปคู่ให้เรา ..แต่ไหง ??


ตระกูลบ้าพลังวิ่งขึ้นไปบนเจดีย์เรียบร้อย


เอ้า...ข้างล่างหันมายิ้มหน่อยยย..


แช๊ะ.....


ข้างบนอีกซักรอบ


ไอ้อิ๋วกะไอ้หมีนี่ช่างถ่ายรูปพอกัน ...


ถ่ายรูปลงปกเทป 5555


ยังไม่ได้โพสรูปคู่เลย ..ซะหน่อยๆๆๆ


อีกคู่ๆๆ


ตากล้องจัดมุมให้ ...รับทราบค่ะท่าน


เหนื่อยๆๆๆ จะไปไหนต่อกันดีละเนี่ย..


ระหว่างนั่งพักก็ถ่ายกันเข้าไป.....

ไปวิ่งเล่นลั้ลลา ถ่ายรูปกับซากเจดีย์ซักแปปก็สมควรแก่เวลาจะกลับบ้านล่ะค่ะ ..เย็นแล้วด้วย


รูปหมู่อีกซักรูปก่อนกลับ


ซื้อสายไหมไปฝากที่บ้านซักหน่อย


แผนที่ภายในวัด (มั้ง)


อยู่กันยันไม่มีคนอ่ะ คิดดู

ตอนแรกไอ้หนุ่มว่าจะไปหาที่กินต่อ ..แต่แบบว่ายังอิ่มม๊ากมาก กะกลิ่นกุ้งตอนกลางวันยังติดอยู่ที่คอ ...เลยขออนุญาตแยกตัวละกันนะ


ภาพสุดท้ายก่อนแยกย้าย

สรุปว่า เรา ริน อิ๋ว เชน หมี แยกตัวกันมา กะว่าไปแวะหาอะไรข้างทางง่ายๆกินแถวบ้านไอ้อิ๋ว (ขากลับรถติดมาก) สุดท้ายไปแวะบิ๊กซีที่ไม่มี๊ ไม่มีอะไรกิน เลยต้องเลี้ยวเข้าไปใน MK (สิ้นคิดสุดๆ) แล้วพอนั่งลงแต่ละคนก็สั่งแหลกเหมือนลืมไปว่าเราแยกตัวออกมาเพื่อหาอะไรกิน เ บ า ๆ ...เหอๆๆๆ
"หมี่หยกมั๊ย"
"เอา... 4 ก้อนเลย"

"เป็ดย่างมั๊ย"
"เอา...จานเล็กก็ได้"
(ก็ไม่คิดที่จะสั่งจานใหญ่หรอกนะ)

เฮ้อ ....เหนื่อยๆๆๆ เพลียมากถึงมากที่สุด เหนียวตัวด้วย ..ลืมบอกว่าวันนี้ร้อนมาก

แวะพักผ่อน + โหลดรูปบ้านไอ้อิ๋วซะหน่อย แล้วค่อยกลับบ้าน ..ถึงบ้านซักราวๆ 4 ทุ่มได้ ... เหอๆๆๆ...แค่ไปไหว้พระอยุธยา 4 วัด ทำไมมันกินเวลาขนาดนั้นวะ ???

เจอกันทริปหน้านะจ๊ะ ..เกาะนางยวน's coming (very) soon!!!

1 Comments:

แสดงความคิดเห็น

<< Home