Angkor Wat 3 : ปราสาทกระวาน- ตาพรหม- บันทายสรี
วันสุดท้ายละ ..มีเวลาเที่ยวครึ่งวัน ...ไปเริ่มที่ปราสาทกระวานก่อน
ที่นี่เป็นปราสาทเล็กๆ แถมไม่ได้เป็นที่กษัตริย์สร้างอีก (ขุนนางขอสร้างถวายบรรพบุรุษ) โดยสร้างไว้เพื่อเป็นอโรคยาศาล
ขั้นบันไดต้องทำเล็กๆ ให้คนค่อยๆเดิน (รีบๆนี่คงตกบันไดตาย)
ข้างในมีรูปพระแม่ลักษมี 4 กร
แล้วก็มีพระนารายณ์ 3 ปาง .. อันนี้ คือ นารายณ์ทรงครุฑ
แล้วก็นารายณ์ปางตรีวิกรม (อันนี้ไม่เคยได้ยิน แต่เค้าบอกว่าเป็นปางที่เป็นใหญ่ใน 3 โลก)
จะทำนารายณ์ 8 กร แต่ไม่ค่อยมีคนเล่นด้วย
ต่อมาก็ไปปราสาทตาพรหมที่เป็นที่รู้จักจากเรื่อง Tomb rider ที่โด่งดัง ... ที่เด่นที่สุดคงเป็นรากไม้ที่มันขึ้นเต็มไปหมดเนี่ยแหละ (ไกด์บอกว่าตอนฝรั่งเศสมาพบ เจอลุงคนนึงชื่อพรหมอาศัยอยู่แถวนั้น ก็เลบัญญัติชื่อว่าปราสาทตาพรหมโดยปริยาย...เหอๆๆ)
ถ้าจำไม่ผิด ที่นี่เป็นที่ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สร้างถวายพระมารดา แล้วถวายเทพแห่งปัญญาด้วย (ไม่แน่ใจว่าชื่อเทพอะไรเหมือนกัน)
ปราสาทนี้เค้าไม่มีการบูรณะซ่อมแซมใดๆ แบบว่าหินหล่นยังไงก็ให้หล่นอย่างนั้น (ดูขลังไปอีกแบบ) ...เราเข้าทางประตูตะวันออก แล้วออกทางประตูตะวันตก ระยะทางเดินประมาณ 1 กม. แต่มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบเลย เพลินดี ...เสียดายที่มีทัวร์เกาหลีตามมาติดๆ จะถ่ายรูปแล้วต้องรีบเล็ง รีบถ่าย ไม่งั้นเกาหลีตามมาทัน แล้วจะไม่สามารถถ่ายรูปได้เลย เหอๆๆๆ
ต้นไม้ที่ขึ้นนี่คือต้นสบง ..เอาไว้ทำฟืน
ข้างในก็ต้นไม้ขึ้นเต็ม หินกองระเกะระกะ
ทางเดินแอบวกวน ถ้าไม่ตามดีๆ อาจจะหลงได้
มุมนี้เห็นคนต่อคิวถ่ายเยอะ เลยไปถ่ายมั่ง
รูปนี้เหมือนปกเทปดี 555
พี่ไกด์บอกว่า ถ่ายแล้วเหมือนอยู่ในกรอบรูป
ต้นฉบับของศิลปะมวยไทย (ที่ไม่มีใครเคยรูว่ามาจากเขมร)
อันนี้กำลังพยายามเคลื่อนที่หินอยู่ ..วิธีการเดียวกับเมื่อก่อนเลยนะเนี่ย
สระบัวกว้างใหญ่ ..เห็นอยู่ไกลๆ คือ ส้วม!!!
สุดท้ายละ ... HIgh light อีกที่นึงคือปราสาทบันทายสรี ที่สร้างมาจากหินทรายสีชมพู ซึ่งเค้าบอกว่าหินชนิดนี้เป็นหินที่หายากที่สุด แต่ว่าคงทนที่สุดเหมือนกัน
ปราสาทนี้แปลเป็นไทยแปลว่า ป้อมของสตรี สร้างในสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมัน แต่ว่าไม่เสร็จ เลยมาสร้างต่อใสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 เพื่อสักการะพระศิวะ
ทางเข้าปราสาท
จะเห็นได้ว่าปราสาทไม่ใหญ่มาก
เศียรพระพุทธเจ้าถูกจัด เพราะความขัดแย้งทางศาสนาตามเคย
จำไม่ได้แฮะ ว่าทำไมต้องมี 2 รู (ปกติต้อง 3)
รอบๆจะเป็นรูปรามเกียรติ์เต็มไปหมด .พี่ไกด์บรรยายเรื่องราวได้ปึ้กมาก (แต่ไม่ได้ฟังตลอด เลยเขียนไมได้) จับได้ว่ามีตอนที่ทศกัณฐ์อาละวาดที่เขาพระสุเมรุ ฯลฯ (ฟังแล้วนึกถึงตอนเห้งเจียอาละวาดสวรค์ แต่ตามวัดจีนไม่เห็นมีรูปสลักแบบนี้เลยแฮะ)
มองไปลิบๆจะเห็นพี่ขิมกำลังโพสท่าอยู่
รูปสลักสวยมากๆๆ แบบว่าละเอียด + มีมิติสุดๆ ไม่น่าเชื่อว่ายังชัดได้ขนาดนี้ ...
แวะที่นี่ได้ไม่นาน ก็ถึงเวลาอันสมควร ไปกินข้าวเที่ยง เสร็จแล้วก็กลับกทม.แล้ว~~~~
อันนี้เป็นทางเดินในโรงแรม ..ห้องพวกเราอยู่เกือบริมสุดโน่นแน่ะ
สนามบินเขมร .... บรรยากาศน่ารักดี ...ช่างแตกต่างกับของบ้านเราอย่างสิ้นเชิง ...เหอๆๆ
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น
<< Home